Low Frequency คลื่นความถี่ต่ำ 

 Low Frequency คลื่นความถี่ต่ำ 

บทประพันธ์โดย: ดวินทร์ 

กำกับการแสดงโดย: อินทร โล่ห์แก้ว 

บทโทรทัศน์โดย: นิรัติศัย ราษฎร์พิทักษ์ 

ผู้ผลิต: บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 

แนวซีรีส์: Romantic comedy Fantasy ปนสืบสวนสอบสวน  

            เพราะเหตุสะเทือนขวัญในวัยเด็ก ทำให้ม่อน มนายุ เด็กชายวัย 10 ขวบต้องนอนโคม่าอยู่หลายเดือน อีกทั้งยังทำให้กาย เพื่อนสนิทของเขาต้องตายก่อนวัยอันควร เหตุการณ์ครั้งนั้นนอกจากจะตามหลอกหลอนม่อนมาตลอด18 ปีแล้ว ยังทำให้เขามีความพิเศษที่ไม่เคยต้องการอย่างการมองเห็นวิญญาณเพิ่มเข้ามาในชีวิต 

            18 ปีผ่านไป ม่อนในวัย 28 ปี เติบโตมาเป็นมัณฑนากรมากพรสวรรค์ ตลอดเวลาที่ผ่านมา
การมองเห็นวิญญาณสร้างปัญหาให้เขาไม่น้อย แต่ด้วยคำแนะนำจากหลวงตาที่ว่า “จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว เมื่อมีสติเราจะควบคุมตัวเองได้” พร้อมทั้งมอบบทสวดสำหรับปิดตาที่สามไว้ให้ ทำให้ม่อนเปิด ปิดความสามารถนี้ได้ดังใจ หากแต่แม้จะปิดพลังไปแล้ว เขายังสามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของวิญญาณได้อยู่ หากเพ่งสมาธิเล็กน้อยก็จะเห็นเป็นเงาจางๆได้ ชีวิตของม่อนในฐานะคนเห็นวิญญาณดำเนินไปอย่างปกติสุขจนกระทั่ง บัว ลูกพี่ลูกน้องได้แนะนำเทมส์ให้รู้จัก 

            บัวมีอาชีพเป็นผู้จัดการดาราของเทมส์ ศิลปินหนุ่มดาวรุ่งที่กำลังกลายเป็นข่าวดังจากอุบัติเหตุรถยนต์จนโคม่า แต่กระนั้นที่ดังกว่าเรื่องอุบัติเหตุ คือ ข่าวลือเสีย ๆ หาย ๆ ที่ว่าเจ้าตัวไม่ใช่คนใส่ซื่อขี้เล่นแบบที่เห็น แต่เป็นนักปาร์ตี้ตัวพ่อ ที่เสพทุกอบายมุขจนถึงขั้นเล่นยา เพราะมีการตรวจพบยาเสพติดตกอยู่ในรถ อีกทั้งตัวของเทมส์ยังเหม็นกลิ่นเหล้าเต็มไปหมด 

            ตัวการที่พาปัญหาเข้ามาในชีวิตม่อน ไม่ใช่พี่บัวซะ 100% แต่เป็นพี่สิงห์ พี่ชายคนโต ที่อดเป็นห่วงบัว ไม่ได้ และโทรมาขอร้องให้ม่อนไปดูแลบัวที่โทรมาขอร้องม่อนว่าพี่บัวเครียดมากเพราะเทมส์ไม่ฟื้นสักที ต้องการความช่วยเหลือ อยากให้ม่อนที่เป็นทั้งคนเห็นผี อีกทั้งยังเคยมีประสบการณ์โคม่าเหมือนกันมาช่วยให้คำแนะนำเผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง 

            ที่โรงพยาบาล ม่อนเป็นคนเดียวที่มองเห็นและสื่อสารกับเทมส์ที่วิญญาณหลุดออกจากร่างได้ เมื่อพี่บัวรู้อย่างนั้น ก็พยายามห้ามไม่ให้ม่อนเข้ามายุ่ง เพราะเรื่องนี้อาจเป็นคดีที่ซับซ้อนและอันตราย แต่ด้วยความที่ม่อนรู้ว่าเทมส์ไม่ใช่คนแบบในข่าว จึงตัดสินใจว่าจะเข้ามาช่วย 

            ม่อนที่ได้พูดคุยกับเทมส์ได้รู้ข้อมูลสำคัญ 2 ประการ 1 คือความทรงจำบางช่วงของเทมส์ยังขาดหายไม่ต่อเนื่องทำให้เล่าเหตุการณ์ได้ไม่ครบถ้วน และ 2 เรื่องกลิ่นเหล้าและยาเสพติดที่ตรวจพบหลังเทมส์ประสบอุบัติเหตุซึ่งเทมส์ยืนยันว่าไม่ได้ดื่มและไม่ได้เสพ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าต้องมีคนอยากป้ายความผิดเรื่องนี้ให้เทมส์แน่ ๆ 

            ขณะที่ม่อนกลับมาที่บ้าน เทมส์ที่ถูกทิ้งอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างโดดเดี่ยวรู้สึกเหงามาก พอเริ่มคิดถึงม่อน รู้ตัวอีกทีก็วาร์ปมาอยู่หน้าบ้านม่อนซะแล้ว แต่กระนั้นก็ยังเข้าบ้านม่อนไม่ได้เพราะม่อนไม่ได้อนุญาต พอเห็นอย่างนั้น ม่อนจึงพยายามไล่เทมส์กลับไป แต่เทมส์ไม่ยอมกลับ สุดท้ายเพราะลูกอ้อนด้วยสายตาลูกหมาของเทมส์ ทำให้ม่อนยอมอนุญาตให้เทมส์เข้ามาในบ้าน โดยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับจากทุกคนไม่เว้นแม้แต่พี่บัว 

            การที่เทมส์ย้ายมาอยู่ที่บ้านม่อนเป็นเพียงความปวดหัวเลเวล1เท่านั้น เพราะเทมส์นั้นไม่ใช่แค่เพียงเรื่องมาก แต่ดันยังชอบไปมีปัญหากับท่านเจ้าที่ประจำบ้าน ไม่ว่าจะเป็นไปหัวเราะการแต่งกายกึ่งเกาหลีผสมไทยโบราณของท่านเจ้าที่จนเจ้าที่โกรธ หรือ การที่ท่านเจ้าที่ที่ปากจะบอกว่าไม่มีอะไร แต่ก็แอบหวงม่อนอยู่ห่างๆแล้วไปบ่นเทมส์ที่ชอบเรื่องมากบ่อยๆ อยู่เป็นประจำ ร้อนจนม่อนต้องมาคอยเคลียร์อยู่เสมอ 

ทั้งเทมส์และม่อนต่างก็ใช้เวลาร่วมกันในบ้านจนสนิทสนมกันมากขึ้น ม่อนที่ไม่เคยคิดจะเรียนรู้เรื่องการอยู่ร่วมกับวิญญาณก็เป็นอันต้องเริ่มเรียนรู้เอาตอนอายุ 28 ปี นี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเอาของกินให้วิญญาณ ถ้าไม่อนุญาตก็จะกินไม่ได้ หรือการส่งเผากงเต๊กเพื่อส่งของไปให้เทมส์ผู้สุดแสนจะเรื่องมาก  

เทมส์ที่อาศัยอยู่ในบ้านของม่อน พยายามตีซี้กับท่านเจ้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการสอนการแต่งตัวแบบคูลๆสไตล์ดาราให้ อีกทั้งยังสอนวิธีการพูดแบบยุคใหม่ให้อีกด้วย แม้จะดูตลกไปบ้างแต่ก็น่ารักจนในที่สุดทั้งคู่ก็สนิทกัน 

ในขณะที่เทมส์เองก็เข้ามามอบความสดใสให้กับชีวิตม่อนที่ปกติแล้ววันๆไม่ยอมสุงสิงกับใคร ไม่ว่าจะเป็นการชอบมาขอกินของอร่อยด้วยทั้งๆที่ตัวเองไม่ต้องกินก็ไม่เป็นไร หรือแม้กระทั่งชวนคุยจนม่อนรำคาญแต่ก็มีความสุขดีที่มีเพื่อนคุย  

วันหนึ่งม่อนได้รับงานให้ออกแบบคอนโดให้กับต้น ญาติของเทมส์ที่ไม่ถูกกันเท่าไหร่นัก ต้นคือหนึ่งในผู้ต้องสงสัยในอุบัติเหตุของเทมส์ ซึ่งเทมส์เองเชื่อว่าต้นเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งแน่ๆ อีกทั้งเทมส์ยังเชื่อเป็นตุเป็นตะว่า แรงจูงใจทั้งหมดต้องมาจากการที่ต้นต้องคิดอะไรกับม่อนและหึงหวงที่เทมส์ใกล้ชิดกับม่อน จนกลายเป็นชนวนในการก่อเหตุ  

แต่ทว่าม่อนก็ได้พิสูจน์ให้เทมส์เห็นว่าต้นไม่ได้เข้าหาตนอย่างที่เทมส์คิด เพราะตอนนี้ต้นมีภรรยากับลูกแล้วหากแต่ต้องปิดบังเอาไว้ เพราะต้นยังไม่อยากให้ครอบครัวทราบ ม่อนรู้เรื่องนี้เพราะม่อนต้องออกแบบตกแต่งห้องนอนให้ลูกสาวของต้น อีกทั้งในตอนที่เกิดเหตุของเทมส์ ต้นก็อยู่ระหว่างการเดินทางกลับจากอิตาลีเพราะต้องไปหาภรรยาและลูกอีกด้วย 

เมื่อตัดต้นออกจากผู้ต้องสงสัย ก็จะเหลือเพียงอีกสองคนที่เป็นผู้ต้องสงสัยเพราะทั้งคู่เคยมีปากเสียงกับเทมส์มาก่อนในวันเกิดเหตุ คือ มาร์ค เพื่อนนักแสดงคนสนิท และ อัยย์ คู่จิ้นและเคยคบหากับเทมส์มาก่อน 

ทั้งม่อนและเทมส์ใช้เวลาอยู่ด้วยกันจนกว่าจะรู้ตัวอีกทีม่อนก็เริ่มรู้สึกหวั่นไหวไปเรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกันกับเทมส์ที่ก็รู้สึกไม่อยากให้ม่อนอยู่ห่างจากสายตาเพราะเป็นห่วง ทั้งคู่ค่อยๆเรียนรู้กันและกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ เรื่องความสามารถของวิญญาณ และเรื่องคดีของเทมส์  

เวลาผ่านไป เทมส์เรียนรู้ได้ว่าในฐานะวิญญาณ นอกจากทะลุกำแพงกับหายตัวแล้ว เทมส์ไม่เหมือนวิญญาณดวงอื่นๆตรงที่ เทมส์สามารถจับมือม่อนได้ อีกทั้งม่อนยังสามารถรู้สึกถึงไออุ่นจากมือของเทมส์ได้ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นแบบนี้กับวิญญาณดวงไหนมาก่อน ทั้งคู่ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร  

เรื่องราวจะจบและมีบทสุปอย่างไร สามารถติดตามความสนุกของซีรีส์ “คลื่นความถี่ต่ำ” ได้ทุกวันเสาร์ เริ่ม เสาร์ ที่ 8 กรกฎาคมนี้ เวลา 22:45-23.45 น. ทาง อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง34 และรับชมย้อนหลังเวอร์ชัน Uncut ได้ทาง iQIYI (อ้ายฉีอี้) และ iQ.com ที่เดียวเท่านั้น 

รายชื่อนักแสดง

            ปิ๊ง-กันตพัฒน์ เกษมสันต์ ณ อยุธยา รับบท เทมส์      นักแสดงหนุ่มไฟแรงอายุ 23 ปี ศิลปินดาวรุ่งที่น้อยคนจะไม่รู้จัก เทมส์เป็นคนเฟรนลี่ร่าเริง ยิ้มสวยใครเห็นก็ต้องยิ้มตาม เขาเป็นคนมุ่งมั่นกับเป้าหมาย และมุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาอยู่กับงานที่เขารักมาโดยตลอด จนแทบไม่มีเวลาใช้ชีวิต เทมส์รู้สึกว่าการใช้ชีวิตแบบนี้คือความสุข เวลาชีวิตเขายังเหลืออีกมาก ไม่จำเป็นต้องรีบใช้ชีวิตก็ได้ จนกระทั่งประสบอุบัติเหตุจนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา วิญญาณหลุดจากร่าง จึงได้เริ่มเรียนรู้ว่าที่ผ่านมาตนใช้ชีวิตได้ล้มเหลวขนาดไหน เทมส์ถูกใจม่อนตั้งแต่แรกเห็น แม้จะอยู่ในร่างวิญญาณ แต่ก็ตัดสินใจตามจีบทันที เพราะตอนนี้เขาไม่รู้อีกแล้วว่าเขาจะเหลือเวลาอยู่บนโลกนี้ได้อีกนานแค่ไหน 

            กีต้าร์ -สาริน ตั้งเจริญไพศาล  รับบท ม่อน หนุ่มมัณฑนากรมาดนิ่ง ผู้มีโลกส่วนตัวสูงยิ่งกว่าภูเขา ม่อนเป็นหนุ่มอายุ 28 ปี ที่ไม่เลือกจะรักษาระยะห่างกับคนรอบข้างอยู่เสมอ มันเริ่มจากปมในวัยเด็กหลังจากม่อนเริ่มเห็นวิญญาณ ที่ทำให้เขาไม่สามารถแยกระหว่างคนกับวิญญาณได้จนชีวิตเริ่มมีปัญหา ด้วยเหตุนี้เขาจึงเลือกจะไม่ผูกสัมพันธ์กับใครถ้าไม่จำเป็น จนกระทั่งเมื่อได้มาเจอกับเทมส์ วิญญาณนักแสดงหนุ่มที่มักเข้ามาลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของเขาจนน่าปวดหัวแต่ก็ห้ามอะไรไม่ได้ การได้มาอยู่บ้านเดียวกันทำให้ม่อนได้รู้จักการเปิดใจและได้มีชีวิตร่วมกับใครอีกคนเป็นครั้งแรก 

            เกร๊ท– จันทรัตว์ นิตยสุนทนวิชญ์ รับบท บัว หญิงสาวอายุ 35 ปี เป็นลูกพี่ลูกน้องที่เหมือนพี่สาวแท้ๆ ของม่อนก็ว่า บัวอยู่ในทุกๆ สถานการณ์ของคนเป็นน้องมาโดยตลอด อีกทั้งบทบาทการเป็นผู้จัดการก็มองว่าเทมส์เป็นเหมือนน้องชายอีกคนของตนเช่นกัน บัวจึงเหมือนคนที่คอยช่วยเหลือน้อง ๆ อยู่ไม่ขาด มองดูเหมือนเจ้ใหญ่ที่คอยดูแลทั้งคู่อยู่ตลอด 

            ไบร์ท – ธนพล อภิสุทธิไมตรี  รับบท พีท        หนุ่มวัย 28 ปี เพื่อนสนิทของม่อน เป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย และเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่รับรู้เรื่องสัมผัสพิเศษ รวมไปถึงอาการฝันร้าย และเรื่องราวในวัยเด็กของเพื่อน ดูเหมือนเป็นคนที่มองอะไรเป็นเรื่องสนุกทุกอย่าง เหมือนไม่เคยมีเรื่องเครียดให้ต้องกังวล เพราะเรื่องเดียวที่พีทจะโมโหได้ก็คือ เพื่อนไม่ยอมซื้อหมูปิ้งเจ้าประจำมาให้ แม้ดูไม่ได้เรื่องได้ราว แต่ถึงเวลาจำเป็นพีทกลับเป็นคนที่พึ่งพาได้มากกว่าที่คิด 

บีม-อติชาติ ลาวัณย์เสถียร รับบท มาร์ค นักแสดงหนุ่ม เพื่อนของเทมส์อีกคน จากรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน เป็นคนที่เทมส์อยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุดมักจะทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันเสมอ แต่ลึกๆก็ยังแอบแข่งกับเทมส์อยู่ 

            ปาย – ชนกันต์ ดวงจันทร์ รับบท อัยย์ นักแสดงหนุ่มเพื่อนสนิท อดีตแฟนเก่าสมัยเรียนของเทมส์ เป็นคนที่คอยหวังดีกับเทมส์เสมอ แต่ก็ยังเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย ที่อาจเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุและข่าวเสียหายเรื่องยาเสพติดของเทมส์  อัยย์เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ดูเข้าถึงยาก 

            ซัน – ณัฐดนัย รุ่งเรือง รับบท สิงห์ พี่ใหญ่ของบ้าน วรพัฒน์ ปัจจุบันเป็นนายใหญ่ของไร่วรพัฒน์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นคนที่มักห่วงใยและดูแลน้องๆอยู่เสมอ