เชฟป้อม ควงลูกชายเล่าโมเมนต์ความสนิท พร้อมบอกเหตุผลทำไม ลูกชาย ไม่ยอมเป็นเชฟอาหารไทยเหมือนคุณแม่! สุดยอดเชฟอาหารไทย อย่าง เชฟป้อม หม่อมหลวงขวัญทิพย์ ที่วันนี้ควงลูกชาย แอร์ กุลพล มาเปิดความสนิทที่คุยกันได้ทุกเรื่อง พร้อมเผยความรักครั้งใหม่ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ เชฟมีลูกกี่คน? เชฟป้อม : 3 คน ชายล้วน 3 คน คุณแอร์คิดว่าใครสนิทกับคุณแม่ที่สุด? แอร์ : ไม่สนิทเลย ล้อเล่นครับ สนิทพอๆ กัน เชฟป้อม : สำหรับลูก 3 คน วิธีพูดกับวิธีคุยบางเรื่องไม่เหมือนกัน เรื่องสาวคุณแอร์คุยกับคุณแม่ได้ไหม? แอร์ : ได้ครับ ไม่เคยรู้สึกว่าอันไหนต้องคุยกับแม่ หรือคุยกับพ่อ ใครอยู่ตรงนั้นก็คุย มีเหตุการณ์หนึ่ง ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญของครอบครัว เป็นการตัดสินใจที่จะแยกทางกับคุณพ่อ ตอนนั้นคุยกันกับลูกไหม? เชฟป้อม : ตอนนั้นคุยกับลูก 3 คนไม่เหมือนกัน 1 กับ 3 ค่อนข้างต่างกับพี่ แต่คนที่2 เหมือนพี่ คือแรงเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจะพูดอะไรเราจะต้องตะล่อมก่อน 1 กับ 3 คุยด้วยกันเลย แล้วเอา 1 กับ 3 เป็นพวกไปคุยกับคนที่ 2 มันก็จะเข้าใจง่ายขึ้น แต่ลูกก็เข้าใจเหตุการณ์ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทำไมคุณแอร์เลือกที่จะเข้าใจคุณแม่? แอร์ : จริงๆ ไม่มีอะไรให้ไม่เข้าใจ แค่คนสองคนเขาไม่อยากอยู่ด้วยกัน เขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน ในความคิดของเราคือ ตราบใดที่มีคนจ่ายค่านู้น ค่านี้ ชีวิตทุกอย่างมันยังเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ค่อยสนใจว่าใครเป็นคนจ่าย แต่ชีวิตเราไม่เปลี่ยน แต่ชีวิตเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในการที่เขาเลิกกันมันก็เป็นเรื่องที่ดี และเป็นโบนัสของเรา เราไม่ต้องฟังคนทะเลาะกันในบ้านอีกแล้ว เชฟป้อม : ที่ลูกพูดก็ถูกนะ เราไม่ตั้งใจให้ลูกเปลี่ยน ให้ลูกมีผลกระทบน้อยที่สุด ลูกเคยอยู่อย่างไงก็อยู่อย่างนั้น ได้อะไรก็ได้อย่างนั้น แล้วพอดีพี่เลือกจะกระทำการนี่ตอนที่คนเล็กอายุ 15 แล้ว ซึ่งค่อนข้างโตมาระดับนึงพูดรู้เรื่อง ลูกต้องเปลี่ยนแปลงน้อยสุด อยู่ที่เดิม เรียนที่เดิม ต้องเลือกไหม คุณพ่อ คุณแม่ แยกทางกัน ลูกต้องอยู่กับใคร? แอร์ : ไม่มี เพราะเหมือนเขาน่าจะทำการบ้านมาอยู่แล้ว คือให้คุณแม่อยู่ในบ้านเพื่อดูแล ในบ้านที่เราอยู่เพื่อดูแลลูกๆ คุณพ่อก็อยู่บ้านเดียวกัน แต่อยู่คนละตึก เชฟป้อม : เราก็ขีดเส้นมีอาณาเขตกันอยู่ก็โอเค แล้วลูกก็แฮปปี้เหมือนเดิม ความเป็นเชฟป้อมดูผ่านหน้าจอทีวีดุมาก ที่บ้านคุณแม่เป็นแบบไหน ตลกไหม? แอร์ : จริงๆ ก็เป็นแบบนั้น เขาปล่อยมุข เราก็ขำตามมารยาทอะไรอย่างนี้ มุขมันคนละยุคไงเลยตามไม่ค่อยทัน ในทีวีดุ ชีวิตจริงก็เป็นอย่างนั้น เชฟป้อม : ก็เป็นเรื่องๆ ไป คือเตือน สอนแล้ว ดี ชั่วรู้เอง พอถึงเวลาที่จะโตต้องตัดสินใจเอง ผิดถูกไปลองเอา แต่อยู่ด้วยกันอย่าโกหก เพราะว่าพี่เคยบอกถ้าลูกทำผิด แม่จะเป็นคนที่เสียใจที่สุด แต่แม่จะเป็นคนแรกที่ให้อภัย ถ้าลูกโกหกปุ๊ป เราไปไม่ถูกแล้ว การที่แม่ช่วยไม่ถูก ไม่ได้ช่วยให้ผิดเป็นถูก แต่เราจะช่วยและผ่านมันไปด้วยกันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เรื่องเซ็กส์เราจะมีวิธีการพูดคุยยังไงกับลูก? เชฟป้อม : ลูกชายทั้ง 3 คนเป็นผู้ชายทั้ง 3 คน ดังนั้นพี่น้องคุยกันได้ มีอยู่วันนึงพี่ไปข้างนอกมา พี่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น เด็กพวกนี้ดูหนังอยู่ พอพี่เดินเข้ามา เขาบอกคุณแม่เข้ามาทำไม ออกไปๆ โอเค ข้อแรกลูกฉันเป็นผู้ชาย ข้อสองป้องกันดีๆ ล่ะ เวลามีหญิงอย่าให้แม่ผู้หญิงเขามาถอนหงอกดิฉันนะคะ คุณทำอะไร คุณก็ระวัง สมัยนี้ห้ามกันไม่ได้ แต่ลูกป้องกันได้ ขับรถแล้วลูกพูดเรื่องทะลึ่งอะไรกันไม่รู้ เห้ยๆ แม่นั่งอยู่นะ เขาก็บอกก็เห็นรู้เรื่องทุกที สเปคลูกสะใภ้วางตั้งไว้ยังไง? เชฟป้อม : ไม่มี ถามเขาได้เลย เพราะคนนี้คนเดียวที่มีแฟนจริงจังมาเป็นเวลานาน ถามว่ามีเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้ไหม พี่ไม่มีจริงๆ เพราะพี่จะคุยกับลูกว่าเธอจะอยู่ อยู่เองนะ ไม่เกี่ยวกับแม่ เธอเลือกใคร เธอต้องอยู่กับเขาได้ แล้วไม่ต้องมาลุกขึ้นแต่งงาน เพราะแม่อยากมีลูกสะใภ้ ลุกขึ้นมีลูก เพราะบอกว่าแม่อยากมีหลาน ไม่เลย ไม่ได้อยากสักอย่าง มันอยู่ที่ลูกทั้งนั้น เคยสอนเขาว่าทำอะไรก็จฝตาม ต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง เช่น ถ้ากินเหล้า อย่าขับรถนะ ถ้าโดยจับ โดนปรับจ่ายเองนะ แม่หม่ยุ่งเลยนะ ดังนั้นการที่เขาจะเลือกใครมาเป็นคู่ชีวิตเขา เขาก็ต้องรับผิดชอบและเรียนรู้ในสิ่งที่เขาเลือกมา เลิกก็เลิก อยู่ไม่ได้แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรชีวิตเขาอะ เคยมีพี่เราหรือเรามีแฟนแล้วแม่ไม่ชอบ แล้วแม่แสดงอาการอะไรไหม? แอร์ : ไม่มีครับ เชฟป้อม : ไม่มีเป็นแฟนขนาดนั้น แต่ว่าเคยมีครั้งหนึ่งจำได้ว่าดึกมากแล้ว เสียงวิ่งลั่นบ้านเมื่อก่อนเกือบประมาณตี2 หรือตี4 ประมาณนั้น พี่ก็ตกใจเปิดประตู พอได้ยินเสียงเปิดประตูก็มีเสียงวิ่งบันไดไม้หนีพี่ไป ก็เลยเดินตามไป เป็นเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเพื่อนของลูกชาย คือไปเที่ยวกันมาแล้วเข้ามาที่บ้านก็คือมีการดื่มอะไรมา แต่ยังไม่ใช่แฟนใครนะ เพียงแต่หงุดหงิดอะฉันตื่น ฉันก็โกรธ ถามว่ามาทำไรตอนนี้ เขาก็บอกว่าไปเที่ยวกลับมาจากผับ เที่ยวขนาดนี้แล้วบุกบ้านผู้ชาย อย่าเอามาทำเมียนะ แล้วพี่ก็ขึ้นไปนอน แต่ไม่ได้มองหน้าว่าเป็นใครนะ ง่วงแล้วเห็นว่าเด็กผู้หญิง ถ้าจะมาก็เดินเบาๆ ได้ไหม ไม่ต้องดังขนาดนั้น คือไม่ได้มีเหตุอะไรเลยที่ไปว่าเขา เราก็แค่หงุดหงิด แอร์พาแฟนมาหาแม่ครั้งแรกเป็นยังไง? แอร์ : ก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เชฟป้อม : ก็เหมือนกินข้าวเพื่อนลูก อย่างคนนี้ก็น่ารักดี ดูเข้ากันได้ดี ดูเป็นผู้หญิงไม่มาง๊องแง๊งกับเขา แล้วเวลาคุณแม่มีความรักช่วยกันแสกนไหม? แอร์ : ไม่แสกนครับเอาจริงรู้สึกโตแล้ว เลือกเองได้แล้ว เราไม่ได้ไปร่วมบ้าน ร่วมเตียงกับเขา เอาจริงขายออกก็ดีแล้ว เชฟป้อม : มันมีโมเมนต์ประทับใจ เขาเป็นลูกคนเล็ก ตอนนั้นเขาอายุ 25 ได้ เขาเรียนจบแล้ว เขาก็มีงานของเขาเรียบร้อยแล้ว วันนึงเขามาคุยกับพี่เอง เขาบอกว่าคุณแม่ไม่ต้องห่วงพวกผมนะ ผมอะเป็นลูกคนเล็ก ถ้าผมบอกว่าอยู่ได้ พี่สองคนก็ต้องอยู่ได้ เพราะฉะนั้นคุณแม่ไปมีชีวิตของตัวเองได้แล้ว อยากทำอะไรก็ทำ พอพูดเสร็จหวานหมู คนมาจีบคุณแม่เยอะไหม? แอร์ : ไม่เห็นตอนจีบ ถ้าได้เจอก็ตอนที่เขารู้สึกโอเคกับคนนี้แล้ว เวลาแม่มีความรักเขาเป็นสาวกุ๊กกิ๊กไหม? แอร์ : คงไม่ทำให้ผมเห็น เวลาแม่มีแฟน แม่เขาคลั่งรักไหม? แอร์ : ไม่คลั่งนะค ถ้าคลั่งรักก็ต้องยอมทุกอย่างถูกไหม แต่เขาอยู่ในจุดที่ว่าถ้าอีกฝ่ายอยู่ในจุดที่ไม่โอเคก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนหรือต้องทน เชฟป้อม : แต่รู้ไหม ปรึกษาลูกจ้า ที่รู้สึกต้องทนก็ปรึกษาลูก เอาไงดี ถึงได้บอกว่าคุยกันทุกเรื่องจริงๆ  ปรึกษาครบ 3 คนไหม? เชฟป้อม : ก็ชวนกินข้าวก็ถามๆ แล้วแต่บางครั้งคุยในบางเรื่องไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหรืออะไรก็อาจจะต้องคุยเป็นคนๆ  ความรักนี่ปรึกษาทั้ง 3 คนเลยไหม? เชฟป้อม : จริงๆ ตัดสินใจมาแล้ว แค่แจ้งให้ทราบ แอร์ : คบก็แจ้งให้ทราบ เลิกก็แจ้งให้ทราบ อย่างช่วยดูคนนู้น คนนี้ เราก็ไม่มีใครตัดสิน เราไม่รู้จักเขาดีเท่าที่แม่รู้จัก ถ้าจะเลือกพลาดก็คือพลาดเอง แต่มันไม่ควรที่เราไปบอกเขาว่าคนนี้ไม่ดี อย่างนู้น อย่างนี้ มันไม่แฟร์ต่อใครเลย เชฟคลั่งรักไหม? เชฟป้อม : ไม่ แก่แล้วไง พออายุเยอะแล้วเหตุผลมันมากกว่า มันไม่ใช่เด็กสาวๆ เอางี้ดีกว่า สาวๆ นี่รักใครก็ยอม จริงๆ ไม่เป็นอย่างนี้ตลอด รับได้ก็รับ แล้วเป็นตัวของเราเอง ลูกๆ ชอบให้มีความรักหรือไม่มีความรักมากกว่ากัน? แอร์ : ไม่ต่างครับ เชฟป้อม : ถ้ากับลูกก็คือเหมือนเดิม …

เชฟป้อม ควงลูกชายเล่าโมเมนต์ความสนิทลูกชาย Read More »

“เจนสุดา” เปิดใจ หลังเพื่อนรัก “วุ้นเส้น” ถูกขอแต่งงาน เผยความตั้งใจ ขอเป็นเพื่อนเจ้าสาว-ตัดชุดแต่งงานเป็นของขวัญให้ วุ้นเส้น หลังจากที่ดาราและนักธุรกิจสาว วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ถูกแฟนหนุ่มนักธุรกิจหนุ่ม นิกม์ ธนะภูมิกุล ที่คบหาดูใจมานาน 4 ปี ทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอ วุ้นเส้น แต่งงานสุดโรแมนติก เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา งานนี้เพื่อนสนิท หนึ่งในแก๊งนางฟ้า อย่าง เจนสุดา ปานโต ได้มาเปิดใจถึงข่าวดีของเพื่อนสนิทผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne 31 ที่มี หนิง ปณิตา และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ เรื่องวุ้นเส้นเก็บงำมาแค่ไหน ? เจน : เก็บมาซักพักแล้ว (เป็นเดือนเลยมั้ย) เจนว่าเป็นปี ที่นิกม์จะวางแผนจองแต่งนะ ? เจน : ใช่ เจนว่าเจนรู้เรื่องนี้ปลายปีที่แล้ว นี่ก็เกือบปีแล้วนะ เขาแค่รอเวลาว่าเมื่อไหร่ดี ซึ่งเราเจอนิกม์กับวุ้นจะแซวตลอดว่า เอายังอ่ะ ให้ยืมแหวนได้นะ เอายังอ่ะ ตรงนี้เลยมั้ย(ยิ้ม) เพราะเห็นเขาแล้วรู้สึกว่าเหมาะสมกันมาก แล้วนิกม์เป็นผู้ชายที่เจนแอบเชียร์ตลอดเลย บอกวุ้นว่าคนนี้ฉันว่าฉันแสกนแล้วว่าดี แล้วแสกนลึกเลยนะว่าเขาเป็นคนยังไง ทำงานยังไง เป็นคนหยิบโหย่ง เขาทำงานจริงจังหรืออะไรอย่างนี้ คำถามที่เราถามเวลาแสกนผู้ชายให้เพื่อนแล้วคำตอบมันคือแบบใช่ ใช่ ใช่ เขาเป็นคนสวีทไหม ? เจน : เขาเป็นคนสวีท พี่หนิงก็เคยเจอ เอาเขาไปนั่งตรงไหนที่มีวุ้นอยู่เขาอยู่ได้ทุกที่ ยิ้ม แฮปปี้ตลอดเวลา เรายังแอบคิดเลยว่า ถ้าเราเป็นวุ้นเราต้องสบายใจมากๆ ไม่ต้องมาห่วงกังวลว่าเขาจะอยู่ได้ไหม เขาจะโอเคหรือเปล่า เขาจะอยู่กับเพื่อนคนนี้ได้ไหม จะเข้ากับใครได้บ้าง ไม่ต้องกังวลอะไรแบบนั้นเลย วางตัวดี พูดจาเพราะ รู้จักที่จะเข้าหาคน น่ารัก ถึงวันที่จะต้องขอ มีส่วนร่วมในแพลนนี้ยังไงบ้าง ? เจน : คือจริงๆแล้วเขากะว่าจะไปขออีกทีนึงนะ เราก็คุยกันว่าเราจะบินไปเซอร์ไพรส์อะไรยังโน้นอย่างนี้ แต่สุดท้ายแล้วคุณนิกม์เขาคงรอเวลาที่ใช่ที่เหมาะสม เขาก็ไปจัดการขอกันเองที่ฝรั่งเศส แต่ส่วนร่วมของเราก็คือบอกไปเลยว่าเราจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวแน่นอน เขายังไม่ได้ขอว่าให้เป็นไหม(หัวเราะ) เห็นบอกว่ามีเหตุการณ์ที่ทำให้มั่นใจกับผู้ชายคนนี้มากเพราะทำให้เพื่อนเราเปลี่ยนไป ? เจน : เชื่อไหมตั้งแต่คบกับวุ้นมาจะ 20 ปีแล้วนะ ตั้งแต่อายุ 10 กว่าๆ 20 ต้นๆหรืออะไรประมาณนี้ ไม่เคยเห็นวุ้นแม้กระทั่งทอดไข่ดาว ไข่เจียว หุงข้าว ไม่เคยเห็น แต่ว่ามีช่วงหนึ่งเขาทำธุรกิจไอศกรีม สมมติวันนี้กินข้าวเย็นกันอยู่ พรุ่งนี้มีออเดอร์จะต้องรีบกลับไปกวนไอติมที่บ้าน กวนเองจากความรักด้วยตัวเองเลย กวนที่บ้านทำเอง เราก็แบบ เห้ย อันนี้มันคือจากใจอ่ะ ไข่ดาว ไข่เจียว เจนยังไม่เคยเห็นเลย ขนาดไปกินข้าวที่บ้านทุกอย่างสั่งมาหมด มันเป็นอิมแพ็คที่ยิ่งหใญ่กับชีวิตเพื่อนเรามาก ตั้งใจจะเป็นเพื่อนเจ้าสาว เห็นว่าอยากจะทำชุดเจ้าสาวให้เพื่อน ? เจน : ใช่ นี่เขายังไม่รู้นะเนี่ย(หัวเราะ) เซอร์ไพรส์ไปเลยละกัน นอกจากเราจะขอไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวแล้ว อยากจะตัดชุดเจ้าสาวให้วุ้น 1 ชุดเป็นของขวัญด้วย เป็นแบรนด์ของคุณหรือเปล่า ? เจน : ถูกต้องค่า เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเขาชอบสไตล์ไหน ชอบอะไร แล้วเราก็ทำเสื้อผ้าอยู่แล้ว รู้สึกว่าอยากให้เพื่อนเป็นของขวัญค่ะ ก่อนเขาจะกลับมาอยากจะฝากบอกอะไรกับเขาไหม ว่าพวกเราดีใจกันแค่ไหน ? เจน : ก็อยากจะบอกทั้งนิกม์และทั้งวุ้นเลย เจนคิดว่าในที่สุดก็หากันเจอ ดีใจด้วยมากๆ เลย ที่ทั้งคู่ตกร่องปล่องชิ้นแล้ว ได้มาเจอกัน ได้มารักกัน วุ้นก็ได้ถูกขอแต่งงาน เจนมีความสุขมาก เรื่องราวของวุ้นเป็นเรื่องราวที่โรแมนติกมากรวมทั้งนิกม์ด้วย ขอให้รักกันไปนานๆ ดีใจด้วยที่สุดเลยค่ะ ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

แพรรี่ ไพรวัลย์ เปิดใจครั้งแรก หลังประกาศลาวงการ ฟาดกลับชาวเน็ตแซะ ไม่เลิก ออกไม่เท่ากับตาย! เปิดใจครั้งแรก สำหรับ แพรรี่ ไพรวัลย์ หลังประกาศลาวงการบันเทิง ไม่รู้ว่าเบื้องหลังมีปัญหากับใครหรือเปล่า ชาวเน็ตแห่คอมเมนต์สนั่นบางคนบอกว่าเป็นแค่คอนเทนต์เรียกกระแส ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องวัน 31 ที่มี หนิง ปณิตา และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ อยู่ดีๆ โพสต์ประกาศอำลาวงการ? แพรรี่ : ก็ตั้งใจเขียนให้เป็นเรื่องเป็นราวนั้นแหละ บอกตั้งแต่เนิ่นๆ ให้คนที่ติดตามเราได้รู้ เพราะถ้าอยู่ดีๆ เราหายไปจากรายการที่ทำ แล้วคนจะสงสัยมาถามกันทีละคน หนูว่าเราเขียนเองเลยดีกว่า แล้วให้แฟนคลับที่เขาติดตามเราได้รู้ว่าตอนนี้เราเตรียมจะมูฟแล้วนะ ถ้าไม่ได้เห็นเราในบทบาทพิธีกรที่เราทำอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร งานในทุกด้านทำได้ดี แล้วจะมูฟเพื่ออะไร? แพรรี่ : เราทำงานมาช่วงหนึ่งเหมือนมันครบกำหนดระยะเวลาที่เราเคยวางแพลนไว้กับตัวเองแล้ว 1 ปี หนูรู้สึกว่า 1 ปีสำหรับหนูมันเยอะสุดแล้ว หนูมองว่าการที่เราได้ทำงานนี้อยู่มันไม่ใช่งานที่เราตั้งใจทำตั้งแต่แรก แต่มีผู้ใหญ่หลายๆ ท่านอาจจะเห็นศักยภาพในตัวหนู แล้วให้โอกาสหนูได้ทำงาน แล้วหนูก็ไม่คิดว่ามันจะลากยาวมาได้ขนาดนี้ เห็นว่าตอนแรกตั้งใจว่า 3 เดือน? แพรรี่ : ประมาณนั้น ตอนแรกที่มาอยู่ในกรุงเทพ แพรรี่ไม่อยากไปต่อเหรอ ที่เขาบอกว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก? แพรรี่ : หนูคิดว่าหนูพอแล้ว น้ำหนูเยอะแล้ว มันมีประโยคนึงในโพสต์ที่ว่า มีดาวเรืองก็ต้องมีดาวโรย ถึงเวลาที่ต้องเก็บของกลับบ้านนาที่จากมาได้แล้ว? แพรรี่ : หนูเป็นคนชอบฟังเพลงแม่พุ่มพวง แล้วรู้สึกว่าเพลงนี้มันสอนใจคนเราดี คือคนเราไม่ต้องรอให้ตัวเองเป็นดาวโรยหรอก ถ้าวันนึงเราคิดว่ามันถึงโอกาส ถึงจังหวะ เราสู้โรยด้วยตัวเราเองดีกว่า ก่อนที่มันจะมีอะไรมาทำให้เราโรย หนูเลยสมัครเป็นดาวโรยก่อนเลย ก่อนที่จะมีคนมาทำให้หนูโรย ไม่ใช่คิดว่าเรามองว่าเป็นขาลง แต่เรามองก็ไม่ใช่? แพรรี่ : กับงานที่ทำ ถ้าหนูยังอยู่ หนูทำได้เรื่อยๆ เลยแล้วผู้ใหญ่ท่านก็ยังเมตตาให้หนูทำ คืออันนั้นหนูสอนตัวเองว่าชีวิตคนเรามีขึ้นก็มีลง เราไม่ได้ยึดติดกับแสง สี อะไรขนาดนั้น พอใจเถอะมาถึงขนาดนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ที่แพรรี่บอกว่าที่สึกมา ไม่ได้สึกมามีชีวิตแค่นี้ อันนี้คืออะไร? แพรรี่ : ตอนที่หนูสึกใหม่ๆ หนูให้สัมภาษณ์ว่าหนูไม่ได้ตั้งใจมาทำงานในวงการ เพราะหนูอยากกลับบ้านไปอยู่กับแม่ ไปทำธุรกิจอะไรของหนูที่เป็นช่องทางรายได้ แต่พอมันจังหวะที่เราแต่งหญิงแล้วงานมันก็เข้ามาเรื่อยๆ เราก็คิดว่าก็ไม่เสียหาย ถ้าเราจะเก็บหอมรอมริบก่อนในโอกาสนั้น หรือจริงๆ แล้วแอบน้อยใจคนในวงการบันเทิง หรือคนที่ทำงานด้วยหรือเปล่า เลยรู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ของเรา? แพรรี่ : ไม่มีนะคะ อย่างรายการที่ทำมันก็เป็นไลฟ์สไตล์หนูเลย ผู้ใหญ่ก็เปิดโอกาสให้เต็มที่เลยนะ ไม่เคยบอกว่าทำรายการต้องเป็นแบบนี้นะ เธอต้องเปลี่ยนบุคลิก นู้นนี่นั่น เพราะว่ารายการที่หนูทำเป็นรายการวาไรตี้ เป็นพิธีกรสัมภาษณ์ เขาให้เราเป็นตัวเองได้เต็มที่เลย หรือว่ามีจุดที่อิ่มตัวในวงการบันเทิงในบางอย่างที่เราทำทุกวัน? แพรรี่ : อันนี้ก็ใช่ส่วนหนึ่ง หนูตื่นมาแต่งหน้าเช้าทุกวัน แต่งหน้าเสร็จกลับห้อง คลีนหน้าก็ใช้เวลาเยอะมาก เพราะเราไม่ได้แต่งหน้า เราโบก เราโบกหน้าทุกวัน ใส่วิกทุกวัน เสื้อผ้าเปลี่ยนทุกวัน บางทีมันก็รู้สึกหนักสำหรับตัวเอง มันเป็นการวนลูปซ้ำๆ หนูใช้ชีวิต 10 กว่าปีอยู่ใน กทม. อยู่ในวัด อยู่ในกุฏิแคบๆ พอหนูสึกมาหนูตั้งใจจะกลับบ้านโล่งๆ บรรยากาศแบบเราได้กลับไปอยู่บ้านเรา แต่พอเราตัดสินใจมาทำงานในวงการ เราก็ต้องมาอยู่ในคอนโดแคบๆ อีก เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่คำตอบสำหรับชีวิตเราที่เราจะเป็นแบบนี้ มันเหนื่อนจริงเหรอที่ต้องตื่นมาแต่งตัว เพราะเราก็ชอบสวยๆ งามๆ ? แพรรี่ : มันทุกวัน บางทีมันก็รู้สึกอิ่ม แต่ไม่ใช่ว่าเบื่อตัวเองนะแต่ว่ามันอิ่มเฉยๆ จุดความพอใจของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน และความสุขที่แต่ละคนอยากมอบให้กับตัวเองไม่เหมือนกัน ถ้าคนที่อยู่ในจุดนี้แล้วรู้สึกว่านี่คือไลฟ์สไตล์นี่คือความสุขกับการทำงานเขา หนูว่าไม่มีผิด ไม่มีถูกเลย ป้าตือเป็นผู้ใหญ่ท่านนึงที่ให้ความรักความเมตตาแพรรี่ถึงขั้นโทรมาเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ลึกๆ ไม่กล้าพูดกับใครไหม? แพรรี่ : ใช่ค่ะ แม่ตือก็เป็นห่วง วันนั้นโทรมาถามว่าเบื้อหลังมีอะไรหรือเปล่าลูก ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า หรือว่าตัดสินใจเองจริงๆ หนูก็เล่าให้แม่ฟังตามที่หนูเขียนไปเลยว่ามันไม่ได้มีอะไรอยู่เบื้องหลังจริงๆ ทุกอย่างเกิดจากที่เราวางแผนเรียบร้อยแล้ว แล้วตัดสินใจแล้ว แม่ก็ให้กำลังใจ แม่เชื่อแกว่าอะไรที่แกตัดสินใจทำมันมีเหตุผล มันเป็นปมในใจหรือเปล่าวันที่โดนกระชากผม ตั้งแต่วันนั้นทุกอย่างมันดูเฟลล์ไปหมดเลย? แพรรี่ : ไม่เกี่ยวเลย การกระทำแบบนั้นไม่สามารถทำให้หนูรู้สึกเฟลล์ได้ ไม่มีทางเลย เรื่องการปลูกผมหนูพูดตั้งแต่แรกๆ แล้วที่จะทำ แต่ยังไม่มีโอกาสจะทำเฉยๆ  ตอนนี้ที่บอกว่าจะเฟดไปก็จะไปทำอยู่? แพรรี่ : ทำด้วย ก็ต้องดูแลตัวเองด้วย เรื่องการปลูกผมทำทีนึงตั้ง 8 เดือน หรือบางที 1 ปี แล้วเราก็ต้องหยุดงานเลย แต่ถ้าเรายังรับงานอยู่มันไม่สามารถทำได้ ต้องใส่วิกอย่างนี้ตลอดไปเลย 1 ปีตามครบกำหนดคุณแพรรี่คือเมื่อไหร่? แพรรี่ : ตอนนี้ยังเหลืออีก 1 รายการที่ทำอยู่ ที่หนูต้องไปคุยกับผู้ใหญ่ในช่อง ถ้าผู้ใหญ่เขาเข้าใจหนูโอเคถ้าแพรรี่ตัดสินใจแล้ว เราก็ไม่ห้าม ไม่อะไร หนูก็จะหมดงานที่ทำประจำแล้ว ทีนี้หนูก็จะพร้อมมูฟกลับไปทันที ก็เร็วๆ นี้ค่ะ ในส่วนของมิสเปรียญยังทำอยู่ไหม? แพรรี่ : หยุดติทั้งหมดเลย หนูทำงานกับผู้ใหญ่หลายช่องอยู่ ที่บอกว่าจะไปปลูกผม เรื่องคนข้างกายมีส่วนไหม? แพรรี่ : เขาไม่ได้ต้องการเห็นหนูในเวอร์ชั่นผมจริง หรือเปลี่ยนตัวเอง ผ่านู้นนี่ไปเลย เขาไม่ได้อะไรเลย เขาเคารพสิ่งที่หนูเลือก มันเหมือนเรามีอะไรอยากทำ แล้วเราไม่ได้ทำสักที มันก็ติดค้างอยู่อย่างนั้น สมมติว่าใกล้ครบ 1 ปีที่เราตั้งใจไว้ แล้วมันมีงานใหญ่เข้ามา เราจะทำต่อไหม? แพรรี่ : ไม่ได้ค่ะ เพราะว่าหนูพูดไปแล้ว ถ้าหนูลังเล พูดอย่างแล้วทำอย่างคนจะว่าหนูได้ว่าเป็นคนปากไม่ตรงกับใจหรือคอนเทนต์ ปัญหาหลักๆ เลยและเป็นสิ่งที่ตั้งใจตั้งแต่แรกเลยคือเรื่องของคุณแม่? แพรรี่ : ทุกวันนี้เราทำงานก็จริงนะ เรามีเงินส่งเสียเลี้ยงดูแม่ แต่หนูว่าโรคที่แม่หนูเป็นอยู่ไม่ใช่เอาเงินไปให้แล้วเขารู้สึกดีอย่างเดียว ครอบครัวหนูมีแค่ 3 คน พ่อก็มีหน้าที่ต้องไปทำเรื่องของเขา เหมือนตอนหนูไม่ได้กลับบ้านแท่เขาก็อยู่คนเดียว บางเวลาแม่ต้องการคนที่จะซัพพอร์ตเขา ให้กำลังใจเขา แล้วอยู่กับเขาจริงๆ เพราะเขาเคยไปพูดกับป้าว่าเขารู้สึกดี เขามีกำลังใจมากขึ้นเวลาลูกเขากลับบ้าน แต่เขาก็เข้าใจว่ากลับมาบ้าน เดี๋ยวก็ต้องกลับไปทำงานเพราะเราต้องหาเงินมาดูแลครอบครัว แม่ไม่เคยพูดกับเราตรงๆ เขาไปพูดกับพี่สาวเขา คุณแม่ตอนนี้อายุ 50 กว่า อยู่ต่างจังหวัดก็อยู่กับพ่อ แล้วก็มีคนดูแลที่เป็นญาติกัน เพราะพอแม่เป็นมะเร็ง แม่ไม่สามารถทำอะไรหนักๆ ได้ กับข้าวกับปลาอย่างนี้ทำไม่ได้ ความกังวลของคุณแม่ตอนนี้อยู่ในสเต็ปไหน? แพรรี่ : โรคมะเร็งมันก็หนักหนาอยู่ อย่างแม่หนูตอนนี้ก็ให้ยาตัวแรง เราไม่รู้อนาคตเลยว่าแม่จะอยู่กับเราได้นานแค่ไหน ไม่ใช่ว่าแม่หนูหายขาดแล้ว หรือดีขึ้น ถ้าแม่หนูหายขาดแล้ว อยู่บ้านแบบสบายใจ ไม่ต้องเป็นทุกข์เพราะโรคทางกาย บางทีหนูอาจจะไม่ได้คิดเรื่องกลับไปก็ได้ คุณแม่ทราบไหมว่าเราเตรียมตัวจะออกจากวงการ? แพรรี่ : น่าจะทราบแล้วค่ะ เดี๋ยวหนูกลับบ้านคงจะถามว่าคิดดีแล้วเหรอ แพลนที่กลับไป เมื่อกี้บอกว่าจะไปเปิดคาเฟ่? แพรรี่ : คนจะคิดว่าหนูไม่ทำงาน กลับไปอยู่บ้านแล้วคงจะหายไปเลย จริงๆ ไม่ใช่นะคะ หนูก็ยังมีช่องทาง มีโซเชียล ช่องทางการติดตามทั้ง ติ๊กต๊อก ไอจี เฟซบุ๊ก หนูก็ใช้ช่องทางนี้แหละในการทำมาหากิน ทุกคนยังได้เจอหนูทุกวันในโซเชียล ก็ยังทำงานอยู่ไม่ใช่กลับไปแล้วไม่ทำงาน หนูจะอยู่ได้ยังไง เพียงแค่ไม่ได้ทำงานประจำกับรายการช่องเท่านั้นเอง กระแสชาวเน็ตบอกว่า ออกเท่ากับสร้างกระแส? แพรรี่ : หนูว่าเป็นเรื่องปกตินะ คนเรามีคนชอบและไม่ชอบเรา มันเป็นเรื่องปกติเลย คนที่เขาไม่ชอบ เขาก็มีสิทธิ์ด่าหนูได้ แต่เขาด่าหนู สิ่งที่หนูทำจะเป็นจริงอย่างที่เขาด่าหรือเปล่า มันก็ต้องดู ถ้าสรุปแล้วหนูออกมาพูดแล้วหนูไม่ออก หนูก็ยอมให้เขาด่า แต่ถ้าหนูพูดจริง ทำจริง คำด่ามันก็ไม่เข้าหนู มันเข้าเขา เหมือนเขานั่งส่องกระจกนั่งด่าตัวเอง เวลาอ่านพวกอย่างนี้รู้สึกโกรธหรือจิตตกบ้างไหม? แพรรี่ : ไม่มีจิตตกเพียงแต่ว่าถ้าบางอันเป็นเพจที่มีคนตามเยอะ อาจไปชี้นำให้คนมาด้อยค่าเราหรือเข้าใจเราผิด เราก็ต้องออกมาชี้แจงอย่างที่มีเพจนึงว่าหนู หนูก็ออกมาบอกว่าออกก็ออกจริง ไม่มีเท่ากับ ไม่ทีอะไร แล้วอธิบายให้เขารู้ว่าเหตุผลที่เราออกเพราะอะไร แล้วถ้าวันนึงทุกคนอยากรู้ชีวิต แล้วเชิญมาสัมภาษณ์แบบนี้ออกไหม? …

แพรรี่ ไพรวัลย์ เปิดใจครั้งแรก หลังประกาศลาวงการ Read More »

“มาสเตอร์เชฟ” หลากอารมณ์เดือด!!ศึกชิงตั๋วรอบชิง  “สตังค์-แคปหมู-เฮง-เบลล์”ใส่สุดพลัง..ฟาดกันยับ กลับมาสร้างความสนุกความมันส์กันอีกครั้งกับรายการ มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย ซีซั่น 6 “อาหารไทย” (MasterChef Thailand Season 6)ของบริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป จำกัดกับสุดยอดการแข่งขันการทำอาหารของเหล่าบรรดา HOME COOK เพื่อเฟ้นหาเพียงหนึ่งเดียวเป็น มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย คนใหม่พร้อมรับเงินรางวัล 1 ล้านบาท     ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะได้แล้ว 2 คนคือ ซีตรอง และ กิ๊ก แต่ยังเหลือเพียงอีกหนึ่งคนที่จะต้องลุ้นระหว่าง สตังค์-แคปหมู-เฮง-เบลล์ใครจะสามารถเข้าสู่รอบชิงได้ ซึ่งทั้ง 4 คนจะต้องเจอกับโจทย์ที่ท้าทายความสามารถอย่างมากกับโจทย์การทำอาหารไทยผสมผสานหรือไทยทวิต เรียกว่าเป็นโจทย์ปราบเซียนจริงๆเพราะถ้าไม่มีความรู้หรือเรียนรู้การทำอาหารแนวนี้มาบ้างชีวิตจบไม่สวยแน่ๆ นอกจากความยากของโจทย์การแข่งขันแล้วทั้ง 4 คนยังต้องแบกรับความกดดันไว้เต็มบ่าเพราะเป็นการแข่งขันเพื่อหาคนเข้าสู่รอบชิงเป็นคนสุดท้าย ดังนั้น สตังค์-แคปหมู-เฮง-เบลล์ จึงทุ่มเทมุ่งมั่นตั้งใจกันอย่างมากเพราะถ้าพลาดจะไม่มีโอกาสแก้ตัว  จึงทำให้บรรยายกาศการแข่งขันเต็มไปด้วยความตึงเครียด จนแทบจะไม่เห็นรอยยิ้มหรือความสนุกสนานเหมือนในรอบที่ผ่านๆมา งานนี้บอกเลยว่าใครมีพลังมีไอเดียอะไรที่ว่าเด็ดต่างสาดใส่กันแบบไม่มียั้งไม่มีกั๊กเรียกว่ามีคบทุกอารมณ์จริงๆเพราะทุกคนต้องการที่จะก้าวไปยืนในรอบชิงชนะเลิศให้ได้ แต่สุดท้ายแล้วใครจะเดินตามความฝันได้สำเร็จ และใครจะล้มเหลว    ติดตามชมการค้นหาคนธรรมดาที่มีใจรักในการทำอาหาร พร้อมกับฝีมือที่ไม่ธรรมดาเพื่อจะก้าวเป็น “มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย ซีซั่น …

“มาสเตอร์เชฟ” หลากอารมณ์เดือด!!ศึกชิงตั๋วรอบชิง Read More »

แน็ก ชาลี เปิดเส้นทางรัก เก๋ไก สไลเดอร์ เกือบไม่ได้ไปต่อเพราะโดนคนถล่มด่าเป็นแสน! เปิดปาก แน็ก ชาลี กับเส้นทางรักกับยูทูบเบอร์ชื่อดัง เก๋ไก สไลเดอร์ พร้อมแจงสาเหตุทำไมไม่โชว์ความหวานออกสื่อ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ กับเก๋ไก๋ เริ่มต้นได้ยังไง? แน็ก : มันนานมาก หลายอย่างทำให้ชีวิตเราอยู่ด้วยกันไม่ได้ ผมก็เกรงใจกลุ่มแฟนคลับเขา เลยทำให้มีช่วงที่ถอยออกมา พอเวลามันผ่านไป เราก็ยังไม่ได้มีใคร ก็มีอยู่คนเดียว กลับมาเมื่อไหร่ก็อยู่ตรงนี้ตลอด แสดงว่าทุกวันนี้ทุกอย่างโอเคแล้ว? แน็ก : ก็โอเคครับ ถ้าเต็ม 100 ผมให้เป็น 1000 เลยครับ ช่วงหนึ่งก็มีคอมเมนต์ว่าเก๋ไกหนีไป เราได้เห็นคอมเมนต์พวกนั้นไหม? แน็ก : ช่วงแรกผมเป็นคนพิมพ์เองนี่แหละ เนื่องด้วยสถานะแรก ต้องบอกก่อนว่าเหมือนเด็กๆ กลุ่มเขาเยอะมากที่จะไม่เข้าใจในการพิมพ์อะไรที่มันไม่ดีในโซเชียล แต่ผมโดนเด็กๆ ถล่มด่าเยอะมาก เป็นแสนคน แล้วด่าพ่อ แม่ ทุกคน ข้อดีก็คือคุณแม่ผมเป็นคนที่ใจเย็นมาก แล้วตัวผมก็เป็นคนที่ใจเย็นสุดๆ เลย ใครที่ทำให้ผมใจร้อนได้ มันต้องเป็นอะไรที่ซ้ำซากและสุดๆ จริงๆ  ตอนนั้นเราเครียดไหม? แน็ก : ผมก็เครียดนิดนึง ผมเครียดตอนที่เด็กมันด่าพ่อ แม่เรา ทั้งที่พ่อ แม่เราไม่ได้เกี่ยวอะไร แล้วมันด่าคำรุนแรงมาก หลายคนก็บอกให้เราฟ้อง แต่ผมจะไม่ทำ เพราะผมเห็นสภาพถ้าเราฟ้องปุ๊บสิ่งที่เราได้เจอไม่ใช่เด็กๆ หรอก เป็นพ่อ แม่ เด็กที่ต้องมาไหว้ เรารู้สึกว่าเราทำไม่ได้ ไม่ใช่นิสัยอย่างนั้นอยู่แล้วด้วย เป็นสาเหตุนึงไหมที่ตอนนั้นเหมือนเพิ่มเริ่มคุย สานสัมพันธ์ แต่พอมีกระแสแบบนี้ก็เลยห่างกัน? แน็ก : มันต้องห่างจริงๆ ครับ แล้วมันมีเหตุผลอะไรอีกหลายอย่างในชีวิตคู่สองคน หลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้ที่มันทำให้เราต้องห่างกัน แล้วเขารู้สึกว่าเขาต้องทำงานอะไรหลายๆ อย่าง เขาอยากทำงานของเขา แต่เราก็พยายามซัพพอร์ตให้ไเ้มากที่สุด อาจจะมีทะเลาะกันบ้าง เถียงกันบ้าง แต่ว่าตัวผมจะเป็นคนที่ชื่นชมในเรื่องที่เวลาเขาทำสิ่งที่ถูกต้อง ตอนที่ห่างไป อะไรทำให้วนกลับมาได้? แน็ก : ผมต้องบอกก่อนนะใครจะเชื่อไม่เชื่อ หรือจะไปถามใครก็ได้ ผมเป็นผู้ชายที่ถ้าคุยกับใคร ต่อให้วันนึงเขาจะไปไหน ไปกับใคร แยกย้ายกัน แต่สิ่งนึงที่ผมจะเป็น ผมจะใช้เวลานานมากในการที่จะตัดขาดจากผู้หญิงคนนึงได้ เพราะผมต้องมองว่าเขาไปชัวร์แล้วนะ ถ้าสังเกตดีๆ ผมไปทุกที่ ผมจะบอกตลอดว่าผมจะรออยู่แค่คนเดียว แล้วทุกคนไม่จำเป็นไม่ต้องเข้ามาหาผม แล้วถ้าสังเกตดีๆ ตั้งแต่วันที่ผมเปิดตัว ไอจีผม ผมไม่ทัก ไม่ตอบ ผมจะจริงจังเรื่องพวกนี้มาก ก็จะให้เกียรติมากๆ  แสดงว่าตอนที่ห่างกันใจมันก็หวิวอยู่? แน็ก : สำหรับผมมันไม่ได้หวิวอย่างเดียวนะ มันเรียกว่าทรมานมาก ผมเป็นคนที่นอนหลับยากอยู่แล้วด้วย ทุกคืนเราก็จะรอ ทำนู้น ทำนี่ของเรา รอให้มันผ่านเวลาไป ความรักผมจะไม่มาบอกว่าเลิกกัน 100% ผมจะบอกว่าความรักมันไม่มีใครเดาได้ สุดท้ายมันเป็นเรื่องสองคน คุณจะเลิก จะคุย สุดท้ายมันมีสิทธิ์ที่จะกลับมา นอกจากมันจะมีภาพอะไรที่ชัดเจน แยกย้ายกันโตขึ้นอีกแบบนึง สุดท้ายก็กลับมา เราได้เริ่มชีวิตด้วยกัน แน็กจีบสาวยังไง? แน็ก : เป็นการคุยแล้วเราชอบ คนคุยกันใหม่ๆ มันก็ชอบกันหมดอยู่แล้วล่ะ คุยกันใหม่ๆ รู้สึกรับได้ในสิ่งที่เราเป็นกัน แต่พอสักพักมันก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนกันอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยน และปรับเปลี่ยนอีกนานมากเลยกว่าจะเจออะไรที่มันมั่นคงนิ่ง อย่างเราต้องปรับอะไรบ้าง? แน็ก : ตัวผมแทบจะไม่ต้องปรับอะไรเลย เพราะตั้งแต่เริ่มเราเข้าไปเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ที่ผมปรับ น่าจะเป็นเรื่องสมาธินะครับ เรื่องที่ว่าเราต้องทำใจได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง ผมจะเป็นคนแนวยอมๆ หน่อย ผมเป็นโรคนิสัยไม่ดีของผมเองนะ เวลาผมตั้งใจจะคุยกับใครปุ๊บผมจะไม่ทำงานอื่นใดๆ ทั้งสิ้นที่จะต้องไปกับคนนู้น คนนี้ แต่เราก็จะทำงานของเราเท่าที่เราทำได้ เราพยายามทำงานของเราให้ดีที่สุด ทำไมต้องเป็นเก๋ไก เขาน่ารักยังไง? แน็ก : เหมือนที่ทุกคนเห็น ก็เริ่มมองหน้าเขาก่อน เห้ย..หน้าตามันน่ารักนะ แล้วพอเราได้รู้จัก ทักทาย ได้คุย ก็เป็นนิสัยที่น่ารักเข้ามาด้วย ก็เริ่มจากหน้าตานี่แหละ น่ารักเหมือนที่ทุกคนเห็น ทุกคนก็ชอบเหมือนกัน รอบที่แล้วหนูบอกว่าเขาทักกลับมา แสดงว่ารอบนี้ที่เปิดตัวเขาเป็นคนทักกลับมาก่อน? แน็ก : ถ้าผมจำไม่ผิดนะ วันนั้นผมมา ผมผอมแห้งมาก ตอนนั้นผมไม่ได้เปิดตัวหรืออะไรทั้งสิ้น แค่ถามว่าเรามีแฟนไหม ผมก็บอกไม่มี แต่มีคนที่ผมรัก เมื่อ 2 วันที่แล้ว เขาโทรกลับมา มันเป็นสิ่งที่ผมคิดอยู่แล้วนะว่ามันจะเกิดสิ่งนี้ขึ้น แล้ววันนั้นเขามาคุยอะไรกับเรา? แน็ก : ถามว่าเป็นยังไงบ้างทำงาน เหมือนเรากลับมาตั้งใจทำงาน เราเปลี่ยนแปลงตัวเองหลายอย่าง ก็ถามสารทุกข์สุขดิบ มีความสุขที่เราได้ถามกัน เลยต่อยาวคุยกันทุกวันเลย? แน็ก : ไม่ครับ เราก็คุยๆ กัน มีเถียงๆ กัน แล้วผมรู้สึกอยากทำงานด้วยนะ แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ตัวเขาอาจจะไม่พร้อมบ้าง ตัวผมพร้อมตลอด เราอยากทำและอยากมีความรับผิดชอบในการทำงานให้ได้มากที่สุด เราเป็นคนขอเขาเลยไหม เห้ย..ซีเรียส? แน็ก : ผมดูดหลายครั้ง ผมบอกว่าผมอยากลงรูปหลายครั้ง มันก็จะมีสลับๆ เหตุการณ์อะไรกัน ผมจะเป็นคนย้ำตลอดว่าภาพที่ทุกคนเห็น ผมไม่ชอบทำตัวแบ๊วๆ นะ แล้วไม่ชอบเป็นคนสร้างกระแส หรือไม่ใช่เกาะคนนั้น ขอถ่าย คนจะไม่ได้เห็นภาพนั้นจากผมเลย แล้วอะไรที่มุ้งมิ้งเกินผมพยายามจะไม่ทำ ผมไม่อยากให้เป็นภาพที่ติดซ้ำ ผมไม่รู้อนาคตข้างหน้าว่ามันจะเป็นยังไง  เวลาอยู่ด้วยกันมันเวอร์ชั่นไหน? แน็ก : มีทุกเวอร์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นตัวผมหรือตัวเขา เขาก็เป็นคนอีกสไตล์ อย่างตัวผมบ้าบอออกทีวี บางทีช่วงนิ่งเราก็มี ก็เหมือนเขาถ้าสมมติน่ารักพอไปกองเฟรนลี่ แต่พอชีวิตจริงมันเป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก เก๋ไกเวลาอยู่กับแน็กเป็นร่างไหน? แน็ก : เราจะเป็นร่างนิ่งๆ กันครับ เราคุยกันปกติ ผมก็นิ่ง เขาก็นิ่ง แค่เวลาทำงานร่วมกัน เราพยายามปรับให้มันเท่าที่ได้ อะไรที่ผมทำออกไปเวลาไลฟ์ บางทีผมอาจจะกวน แต่ถ้ามาแบบหวานๆ ผมขอร้องจริงๆ ผมไม่กล้าทำ ผมจะไม่พูดเหมือนนักแสดงทุกคนนะ ที่บอกว่าเราจะอยู่กัน 10 ปี เราจะรักกัน 10 ปี ผมกล้าพูดว่ามันไม่ได้ทุกคน คู่ที่ไม่หวือหวากลายเป็นว่าอยู่นานกว่า มีความสุขที่ได้ดูแบบไม่คะยั้นคะยอให้คนดู อันนั้นคือสิ่งที่ผมว่ามันเป็นความสุข แสดงว่าเรามีความสุขกับผู้หญิงคนนี้ในโลกของเรา? แน็ก : ใช่ครับ  เหมือนพี่ไหมอยู่ในโอวาทแฟน? แน็ก : ผมเนี่ยอยู่นะครับ ผมจะเป็นคนที่รักมาก แต่ถ้าความคิดบางเรื่องผิด ผมจะไม่เข้าข้างนะครับ แต่ตัวผมจะอยู่ข้างๆ จนบางทีเขาก็ลืมนะคนที่อยู่ข้างๆ คือเรา แต่แค่เราไม่ได้สนับสนุนว่าการพิมพ์แบบนี้ถูก การพิมพ์แบบนี้เป็นการสอนที่ผิดนะ เราจะเป็นคนเตือนอะไรตรงๆ จะไม่เข้าข้างในทุกเรื่อง พอหลังจากเปิดตัวกระแสเป็นยังไง? แน็ก : ผมรู้สึกว่าผมหลงตัวเองนะครับ แฟนคลับเขาจะเป็นเด็กๆ สิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นความฝันของเขา แล้วเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมอาจจะหลงตัวเองก็ได้นะในวันที่เราคุยกัน ผมอยากพาเขาให้มีแฟนคลับกลุ่มผมได้รู้จักมากขึ้น และผมเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้นเยอะขึ้นจริงๆ ตอนนี้เป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักเขามากขึ้น หรือผมได้เห็นหลายคนบอกว่า ได้มารู้จักน้อง และที่ผมชอบที่สุดคือผมได้บังคับเขาร้องเพลง หลายคนจะด่าผม เวลาผมบังคับในไลฟ์ แต่ผมอยากให้ทุกคนใด้ยินศักยภาพที่เขามีอยู่ เพราะเขาร้องเพลงโคตรเพราะ ผมพยายามอยากให้คนได้เห็น ผมอาจจะเผลอคะยั้นคะยอไปในไลฟ์คนก็จะด่า แต่ผมเชื่อว่าวันหนึ่งเขาจะมั่นใจ เหมือนวันนี้เขาร้องไม่หยุด ผมเข้าไปร้องแทรกเขาไม่ค่อยได้ กลายเป็นว่าเขาจะเริ่มร้องมากขึ้น มั่นใจมากขึ้น เรื่องรูปหรืออะไร ผมไม่ค่อยลงหรอก ลงวันเกิดเขา อยากเก็บเอาไว้ นานๆ ลงที จะได้แบบไม่ลงเยอะ แต่พอไม่ลงเลยก็ไม่ได้คนแม่งด่าชิบหาย เราก็อยากลงอะไรที่น่ารัก แต่พอลงคนก็ได้ยินเสียงเขามากขึ้น คนได้เห็นการร้องเพลงของเขา มันเป็นความสุขของผมที่แบบว่าได้ผู้ใหญ่จากกลุ่มนึงมารักเขามากขึ้น  วันเกิดเก๋ไกที่ผ่านมา ไปฉลองที่ไหน? แน็ก : วันเกิดไม่ได้ฉลอง เพราะว่าน้องเขาไม่สบาย แล้วผมก็เป็นคนติดป่วยง่าย แล้วก็ฉลองความป่วยของเรา แล้วก็มีคนส่งเค้กมาให้ สำหรับผม แค่ได้อยู่ด้วยกันก็มีความสุขแล้ว ผมอยากให้มองว่าไม่ใช่วันเกิดทุกคนมาแบบตั้งใจ เอาสิ่งนู้น สิ่งนี้ให้กัน ผมรู้สึกว่าทำวันอื่นได้เท่าๆ กัน ผมเลือกอันนี้นะ มันดีกว่า อยากได้ของวันไหนผมก็ซื้อวันนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นวันเกิด แต่วันเกิดก็มีให้เล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่ได้เจาะจง เขายังมีกลุ่มเด็กที่ตามอยู่นะ หรือกลุ่มวัยรุ่นที่ว่าต้องแบบนี้ ต้อง 2:2 เที่ยวต่างประเทศ 2 ครั้งต่อปี การเที่ยวของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ข้าวที่ผมกินปกติของผมทุกวันก็มีความสุขแล้ว อยากให้ทุกคนมองว่าความรักในทุกวันมีความสุข มันเป็นเรื่องนึงที่กันการมีปัญหาระยะยาวได้ ถ้าคุณอยู่ด้วยกันแบบมีความสุข เมื่อไหร่พร้อมเที่ยว แล้ววันนึงที่คุณแข็งแรงทั้งคู่แล้วคุณจะไปเที่ยวยิ่งกว่า 2:2 ทั้งปีคุณก็ไปได้ คุณจะกินเยอะขนาดไหน คุณก็ทำได้ ช่วงนี้แน็กกลับมารับงานเหมือนเป็นวัยรุ่นสร้างตัว? แน็ก : ไม่สร้างตัวหรอกครับ จริงๆ ผมก็มีของสะสมเยอะ ผมชอบกวนว่าไม่มีบ้าง ถ้าผมพูดตรงๆ ผมจะไม่ชอบคำนี้ ผมไม่ชอบอวด ไม่ใช่ว่ามีอะไรแล้วเราต้องลง เราจะกลัวมาก เราจะช่วยเหลือคนแค่ไหน เราไม่เคยถ่าย เราให้เงินใคร คือมันไม่ใช่เรื่องผิดนะครับ เป็นเรื่องที่ทุกคนมีความสุขและอยากให้เห็น ตัวผมจะมีอะไรหลายอย่าง ผมก็ไม่เคยลง ผมแค่รู้สึกว่าเราใช้ชีวิตมีความสุขกับสิ่งที่เรามีก็โอเคแล้ว พอเปิดตัวปุ๊บงานรุม ต้องปรับตัวอะไรไหมในการรับงาน? แน็ก : จริงๆ ผมมีข้อตกลงอะไรกับเขาอยู่แล้ว เรื่องจะทำงานหลายๆ อย่าง เพราะผมพร้อมมาก ผมใส่ใจมาก ช่วงนั้นคนจีนเรียกผมมาก ผมก็พร้อมอาทิตย์นึงเรียนจีนๆ แต่ด้วยความที่ผมเลือกอะไร หลายๆ อย่าง เรามีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน ผมรู้สึกว่าผมอยากลุยกับเขามาก ผมรู้สึกว่าเราลุยด้วยกัน เราไม่ต้องทิ้งกันนะ เราทำงานด้วยกันให้แบบสุดชีวิตไปเลย สักปีนึงก็ได้ วันที่คุณจะไปลุยงานอื่นแล้วค่อยแยกย้ายกันไปลุยก็ได้ เราอยากทำของเราให้ดีที่สุด มาลุยกัน ทำงานกัน ก็เป็นอะไรที่ดีที่สุด ผมต้องขอบคุณคนกลุ่มแรก คือกลุ่มแฟนคลับที่เปิดใจ การที่เราเปิดตัวคบกันแล้วมันเป็นจังหวะที่ดีแล้ว มีคนชม มีคนสนับสนุนเป็นส่วนมาก สำหรับผมเป็นอะไรที่โชคดีที่สุดแล้ว แล้วผมก็จะประคองมันให้นานที่สุดเท่าที่มันจะเป็นไปได้ 2.ลูกค้าทุ่มกับเรามาก ไม่ใช่เงินน้อยๆ เลยที่ลูกค้าทุ่มให้เราคู่กัน เป็นสิ่งที่ผมบอกใครก็ไม่มีใครเชื่อว่ามันเป็นไปได้ ผมบอก ผมจะทำให้ดูว่ามันเป็นอย่างนี้ เราจะไปด้วยกัน มีความสุขมากๆ  ก่อนหน้านี้คู่จิ้นของเราคือโฟกัส ตอนนี้โฟกัสน้อยใจไหม? แน็ก : โฟกัสเรียกว่าจิ้นเหรอครับ โฟกัสเนี่ยผัวมันก็อยู่ข้างๆ ผมตลอด ของโฟกัสเรียกว่าเป็นคู่เพื่อนรัก คู่เพื่อนทำงาน โฟกัสเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ 10 ขวบ 20 ปีแล้ว มันไม่มีความจิ้นอะไรสำหรับผม เก๋ไกเขาเซ็นสัญญากับค่ายแถวพระราม4 เขาตื่นเต้น เขาชอบไหม? แน็ก : เขาชอบมากครับ ผมรู้ ผมพูดกับเขาตลอดว่าจะเป็นสิ่งที่เขาชอบมาก ผมพูดกับทุกคนใกล้ตัวเขาว่าเป็นสิ่งที่เขาชอบมากวันที่เขาได้เริ่มถ่ายละคร เราหวงไหม? แน็ก : ในความเป็นผู้ชายหวงระดับนึง และอีกเรื่องผมอาจจะแคร์ลูกค้าบางคน ผมชอบขายงานคู่กับลูกค้า ตัวเขาเองยังไม่เชื่อผมเลยนะ ผมไปกับลูกค้ากี่งาน ผมบอกเลยนะ ผมไม่ขอจิ้นกับใคร ผมขอทำงานกับเก๋นะครับ ถ้าไปทำงานแล้วต้องมีคู่ ผมขอคู่อยู่คนเดียว แพลนอนาคตเราวางไว้ยัง? แน็ก : กับคุณเก๋ไกเหรอทำวันนี้ให้มันดีที่สุด มันไม่มีใครเดาอนาคตได้ แพลนได้ แต่อย่าไปบอกใครมั่ว สุดท้ายเดี๋ยวมันไม่เป็นตามนั้น เอาเป็นว่าเราแคร์แฟนคลับเรา แคร์คนที่ให้ความรักเราทั้งคู่ ให้เขามีความสุขที่ได้ดูคลิปเรา ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 …

แน็ก ชาลี เปิดเส้นทางรัก เก๋ไก สไลเดอร์ เกือบไม่ได้ไปต่อเพราะโดนคนถล่มด่าเป็นแสน! Read More »

อ.ลักษณ์ ทำนายที่แรก หลังราหูย้าย ราศีไหนปังสุด-ราศีไหนต้องระวัง! อาจารย์ลักษณ์ ราชสีห์ ที่วันนี้จะมาชี้ชะตาทำนายทั้ง 12 ราศี หลังดาวราหูย้ายราศีในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ แต่ละราศีมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ อ.ลักษณ์ เป็นหมอดูคนแรกๆ ที่ได้ดูดวงหนิง อ.บอกว่าคนนี้ เดี๋ยวก็เลิก ไม่ใช่หรอก แต่ในขณะที่วันนั้นความรักหนิงกำลังดี และหลายๆ อย่างที่อ.ทักมาหนิงไม่เคยเชื่อเลยก็เกิดขึ้นตามที่อ.บอกจริงๆ อ.บอกว่าหนิงมีดวงที่จะหย่าร้าง ก็จะถาม อ.ว่าปัญหาวุ่นวายต่างๆ จะจบลงยังไง มีเคล็ดลับดีๆ ไหม และอีกอย่างหนิงจะทำบางสิ่ง บางอย่างที่หนิงเคยมีความฝันว่าอยากทำ หนิงคิดว่า อ.จำได้ มันจะสำเร็จไหม? อ.ลักษณ์ : หนิงเคยไปออกรายการหนึ่งที่คุยเจาะลึกดวงชะตา ที่เขาถามข้อแรก ดวงเขาจะหมดปัญหาเมื่อไหร่ คือเคยบอกหนิงไปแล้ว ดวงหนิงต้องแต่งกับงาน ที่เขามีปัญหาในขณะนี้ ปัญหามันจะรุนแรงขึ้นในช่วง 30 มีนาคม 2565 จนถึง 17 ตุลาคม 2566 วันราหูย้าย เพราะคุณหนิงอยู่ลักขณาราศีตุลย์ ตั้งแต่ 30 มีนาคม ปีที่แล้ว มันจะมีความวุ่นวายเรื่องความรัก เรื่องหุ้นส่วน การทำธุรกิจกับใคร แบบนี้มันธรรมดา แต่พอพ้น 17 ตุลาคม ราหูจะจรจากการเล็งดวงชะตาพ้นไปอีกมุมนึ่งให้คุณ มันเป็นจุดเปลี่ยนแปลง และมันจะโล่งหลังจาก 17 ตุลาคม ดวงคุณหนิงจะปลอดโปร่ง ทุกอย่างจะคลี่คลาย จากร้ายกลายดี ฟันธง แล้วอีกหนึ่งคำถาม ความฝันที่พี่หนิงอยากจะทำ จะเป็นยังไง? อ.ลักษณ์ : หนิงเป็นดวงแปลกนะ ดวงหนิงลักษขณาราศีตุลย์ กว่าจะเจองานที่ใช่มันร่อนเร่ แล้วหลังจาก 17 ตุลาคม ราหูย้าย เรื่องคู่คลี่คลาย เรื่องการงานสิ่งที่คิดอยากจะทำ จะทำสำเร็จสำหรับคุณหนิงและคนเกิดลักขณาราศีตุลย์ ฟันธง  ความรักแกจะดีไหม? อ.ลักษณ์ : ความรักมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของคนสองคน แต่ละคนดวงไม่เหมือนกัน ดาวคู่ของหนิงเป็นตำแหน่งมิตร แปลว่าเสื่อม แปลว่าคู่ครองของหนิงมันไม่ค่อยได้ความ ในรายละเอียดหลายอย่าง เช่น ไม่ขยัน ไม่ค่อยรับผิดชอบ น่าเบื่อ เซ็ง เซ็กส์จัดแล้วก็เสื่อม มันไม่เสถียร มันจะเป็นสภาพอย่างนี้ ดังนั้นถ้าเกิดหนิงคิดจะมีคู่ โดยตั้งเป้าเรื่องนี้เป็นเรื่องหลักของชีวิต มีแต่ทุกข์ แต่ถ้าคิดว่าเอางาน มีเงิน เที่ยว มีความสุข ถ้าคบมึงแล้วมึงไม่ให้เงินกู กูเลิกมึง กูไปทำงานหาเงินเอง อย่างนี้ดี ต้องไม่เอามาเป็นหลัก? อ.ลักษณ์ : ใช่  ไม่ใช่ดวงของพี่หนิงอย่างเดียวนะที่คนกำลังเครียดช่วงนี้ เพราะว่าตั้งแต่โควิดมา เรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล มันรู้สึกเครียดไปหมด แต่ อ.ลักษณ์ บอกว่าหลังจาก 17 ตุลาคม ราหูย้าย เศรษฐกิจใดๆ แบบร้านของฉันปิดไป มันจะมาเปิดได้ไหม? อ.ลักษณ์ : ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ออกอากาศผ่านสื่อทีวี ผมอยากบอกประชาชนว่าในฐานะที่ผมเป็นโหราศาสตร์คนนึง ที่มีคนรักและคนเกลียด ผมได้ทำหน้าที่ของผมมา 30 ปี ในชีวิตโหราศาสตร์ ผมเห็นว่าราหูย้ายครั้งนี้ ผมจะเป็โหนคนแรก และคนเดียวที่พูดว่าราหูโยกย้ายวันที่ 17 ตุลาคม นี้ เป็นรอบที่ 14 ตั้งแต่ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ แปลว่าบ้านเมืองเจริญรุ่ง ต่างชาติจะเข้ามา การค้าจะคึกคัก จะเป็นโอกาสที่คนไทยมีกำลังใจลุย ดี เพราะหลายคนกำลังเครียด รอฟ้าเปิด? อ.ลักษณ์ : ไม่เครียดเท่านั้น มันกลายเป็นว่าหมดกำลังใจ ไม่มีหวัง ทีนี้อาจารย์ก็เป็นผู้รู้ก่อนการณ์ จากตำแหน่งดวงดาว ถ้าสมมติทายวันนี้ไม่แม่น เศรษฐกิจไม่ดี บ้านเมืองไม่คึกคัก คนก็บอกว่าไม่เห็นแม่นเลยถูกต้องไหม อ.คิดในใจแบบนี้ที่ทายไปตามที่ครูบาอาจารย์ได้สอนมา หากจะผิดพลาดครูบาอาจารย์รับผิดชอบด้วยเถิด ให้อ.ทายทักแฟนคลับคุยแซ่บshow หลังจากที่ราหูย้าย เริ่มจาก กรกฏ? อ.ลักษณ์ : 17 ตุลาคม หลังจากราหูย้าย จะเปลี่ยนร้ายกลายเป็นดี จะมีธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ขยับขยาย เงินทองไหลมา เทมา ฟันธง ดวงโคตรดี เพราะราศีกรกฏถ้าผ่าน 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา ตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2563 ถึง 1 มีนาคม 2566 คือ 2 ปีครึ่งที่ดาวเสาร์เล็งดวงชะตา มันผ่านไปแล้วตั้งแต่ 1 มีนาคม 2566 พอราหูย้าย โชคใหญ่ มันเป็นเกณฑ์พ้นเคราะห์ กรกฏเนี่ย เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาแทบตาย ตอนนี้โล่งใจ มีแต่รุ่งเรือง ฟันธง มีเรื่องที่ต้องระวังไหม? อ.ลักษณ์ : มัปัญหาเรื่องโรคภัย ไข้เจ็บเรื้อรัง ไม่ต้องมาหาหมอดู ไปหาแพทย์ตรวจเช็กร่างกาย ราศีต่อไป ราศีกุมภ์? อ.ลักษณ์ : ราศีกุมภ์มีเทพประจำตัวคือราหู แปลว่าชาวราศีกุมภ์จะมีทุกข์หนักก่อน แล้วต่อสู้ให้ได้ จะเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี ชาวราศีกุมภ์มันจะเหมือนหนักๆ ในภาระต่างๆ ถ้าคนรักมันไม่ใช่ มันจะเลิกจากกันไป เพราะฉะนั้นถ้าต้องเลิกกับใครในช่วง 1 มีนาคมนี้ไป 2 ปี ไม่ต้องกังวล เพราะมันเป็นเวลาที่บอกว่ามันไม่ใช่ เดี๋ยวมันจะเจอคนที่ใช่ คนเกิดราศีกุมภ์ หลังจาก 17 ตุลาคมนี้ ชีวิตมันจะไปนู้น มานี่ แล้วดี  อย่าอยู่กับที่ เดินทางเปลี่ยนแปลง ราศีกุมภ์ดีแน่นอนฟันธง ราศีพฤษก? อ.บักษณ์ : ปกติราศีนี้มันเหมือนจะดวงไม่ดี ก้ำกึ่งมาสัก 1-2 ปัแล้ว แต่วันที่ 17 ตุลาคม ที่ราหูย้าย งานมีโอกาสเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ถ้ามีโปรเจ็กต์งานต่างประเทศให้ทำเลย มีโอกาสรุ่งโรจน์ สำเร็จ รวย ฟันธง แต่ที่พฤษกแย่คือมันจมอยู่กับสภาพเดิมๆ จะทำแบบเดิมๆ เครียดก็จะอยู่อย่างนี้ ดาวมาทับมันต้องเปลี่ยนแปลง ราศีมิถุน? อ.ลักษณ์ : ปกติในบรรดาราศีทั้ง 12 ราศีเนี่ย ราศีมิถุนลั้นลาสุดนะ เป็นคนจำแล้วลืมเร็ว ไม่ชอบอะไรที่หนัก เป็นราศีที่มีสภาพนางฟ้า เทวดา มาเกิด อ.ดูดวงมา 30 ปีใครเป็นดารานักแสดง ใครเป็นนักการเมือง ที่อ.ดูมา เขาต้องมีราหูเด่นในดวงทุกคน เพราะราหูคือมายา ดราม่า อารมณ์ นักการเมืองต้องมีเล่ห์เหลี่ยม คนเกิดลักขณาราศีมิถุน มีราหูเป็นเจ้าแห่งศุภะจึงหนีแสง สี เสียง นี้ไม่พ้น บางทีโคตรเบื่อเลยอยากไปอยู่กับครอบครัว แต่มันก็ต้องมาแบบนี้ หลังจาก 17 ตุลาคม มันเริ่มมีบทบาทที่ชัดเจนมากขึ้น เช่น ตอนนี้มีพิธีกร อาจจะมีละครเพิ่มมากขึ้น คือจะมีอะไรที่ชัดเจนมากขึ้น หลังจาก 17 ตุลาคม ราศีมิถุนจะมีความสำเร็จจากงานที่มีเป้าหมาย ต้องมีพระราหูติดตัว ราศีกันย์? อ.ลักษณ์ : เป็นราศีที่น่าเป็นห่วงที่สุดในบรรดา 12 ราศี ชาวกันย์เมื่อ 19 เมษายน ที่ผ่านมา ไปถึง 30 เมษายน 2567 มันจะร้อนอก ร้อนใจ ผิดพลาด ผิดหวัง งานเคยทำเปลี่ยนแปลง อ.มองแบบนี้นะ ดวงมันเหมือนจะแน่ที่สุด ประกอบกับ 1 มีนาคม ดาวเสาร์โคจรเข้ามาเป็นอริกับดวงชะตา ภาระกิจใหม่ก็ยากหิน  แต่อ.มองอย่างนี้ ราหูท่านร่วมกับพฤหัส 17 ตุลาคม ราหูจะย้ายออกจากพฤหัส แล้วราหูจะมาเล็งราศีกันย์ มีตีความได้ 2 ประการ 1.ชาวราศีกันย์ที่หง่อย เฉา หมดกำลังใจแล้วไม่สู้อะไรเลย พังเลย แต่ราศีกันย์ลุกขึ้นสู้ มันจะเหมือนนาทีสุดท้ายของแรงฮึบ และได้แสงสุดท้ายจากพระราหู ยิ่งบูชาพระราหูยิ่งดี ต้องระวังคู่ครอง หุ้นส่วน ใครเป็นโสดต้องระวังเลย จากนี้เป็นต้นไปตั้งแต่ราหูมาเล็ง คนที่เข้ามาใหม่ๆ มันจะเป็นพวกไม่ได้ความ มันอาจจะโดนใจ เพราะมันเร้าใจ แต่มันล่อลวงเรา แล้วเอาทั้งเงิน เอาทั้งกาย หุ้นส่วนก็จะมีปัญหา อ.แนะนำ กันย์กับมีน ย้ายบ้าน ย้ายห้องนอน ย้ายที่อยู่ยิ่งดี ราศีธนู? อ.ลักษณ์ : ดวงชะตามันดีมา 2 ปีแล้ว 1.ธนูหลายคนไปทำงานต่างประเทศ ไปเรียนต่างประเทศ หรือได้ไปไกลที่ ไกลถิ่น ชีวิตเร่ร่อน ขึ้นสูงลงต่ำ สลับสับเปลี่ยน มันต้องมีผู้ใหญ่เป็นที่เมตตา ธนูถ้าโดดเดี่ยวเสร็จ ต้องมีผู้ใหญ่เมตาแล้วจะรุ่งเรือง คนธนูราหูย้ายในครั้งนี้มีเกณฑ์ได้บ้านใหม่ รถใหม่ แล้วปี 2568 มันจะมีจุดรุ่งโรจน์ได้เงินก้อนใหญ่มาก ราศีสิงห์? อ.ลักษณ์ : เรื่องหุ้นส่วน คู่ครอง ต้องประคับประคองให้มาก ร้อนได้ ต้องเย็นเป็น จะทำงานหุ้นส่วนกับใครต้องระวัง ใครที่มีคู่ต้องอดทน ส่วนใครที่มีกิ๊กต้องเลิกหมด  ราศีมังกร? อ.ลักษณ์ : ดีมากเลยนะ มังกรสันดานเดิมๆ ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง เป็นแบบไหน แบบนั้น นึกถึงท่านประยุทธ แล้วจะนึกภาพมังกรชัด คนเกิดมังกร ดาวเสาร์โคจรเข้าสู่เรือนการเงิน คือราหู แปลว่าจะมีช่องทางใหม่ๆ ในโอกาสที่จะพารวย ตั้งแต่บัดนี้ 17 ตุลาคม ไปถึงปี 68 จะมีจุดระเบิดตู๊มของความรวยที่สำเร็จของชาวราศีมังกร ฟันธง ราศีตุลย์ ? อ.ลักษณ์ : ราศีนี้ดวงต้องดีมาก เพราะอ.เกิดราศีตุลย์ ถ้าเกิดอาจารย์ดูอะไรมั่วๆ เท่ากับทุจริตกับตัวเองถูกต้องไหม เพราะฉะนั้นคนเกิดราศีตุลย์ราหูกับพฤหัสเล็งดวงชะตามาระยะนึงแล้ว ราหูเป็นมายาของโลก พฤหัสบดี คือความจริง กตัญญู ตอนนี้ราหูกับพฤหัสบดีร่วมกันอยู่ราศีเมษ เล็งคนเกิดราศีตุลย์ แปลว่าที่ผ่านมาสักหนึ่งปีเหมือนมีอะไรเข้ามามากมาย แต่คว้าได้ไม่หมด แต่พอหลังจาก 17 ตุลาคม ราหูแยกจากพฤหัสบดี เหลือดาวประทานโชคลาภเล็งดวงชะตาของชาวราศีตุลย์ ตั้งแต่ 17 ตุลาคม ถึง 30 เมษายน 2567 แปลว่าจากนี้คนโสดจะมีคู่ คนมีคู่อยู่แล้วจะมีบุตร สมหวัง สมปรารถนา มีความสำเร็จ เงินทองไหลมา เทมา ร่ำรวย โชคดี ฟันธง ราศีพิจิก? อ.ลักษณ์ : คนลักขณาราศีพิจิก เป็นราศีลึกลับ เป็นราศีที่ทายยาก พิจิกจะมีอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่น แล้วมีการขึ้นลงที่ไม่ได้เป็นไปตามใจนึกของใคร เป็นเฉพาะตัว 1.พิจิก ไม่ต้องดูดวงครับ คุณรู้ด้วยตัวเองอยู่แล้วโดยความรู้สึก ลองนิ่งๆ เลิกสับสน มันมีลางสังหรณ์ ซิกเซ้นท์ ไม่เหมือนใคร คนพิจิกเหมือนเกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด มีความลึกลับ พิจิกที่ราหูยกครั้งนี้ แปลว่า 1.ใครไม่มีบุตรจะมีบุตร ถ้ามีบุตร บุตรจะนำพาความเจริญ ถ้าไม่ใช่บุตรก็จะเป็นบริวาร คนรอบตัวจะมีความเจริญรุ่งเรืองที่มาเกื้อกูล แต่ราศีพิจิกมันไม่ชอบเพิ่งใครหรอก มันชอบเพิ่งตัวเอง แต่มีหลักอยู่ ราหูย้าย 17 ตุลาคม นี้มันจะมีโปรเจ็กต์บางประการที่ต้องเริ่มต้นและทำต่อไปให้ความอดทนมันจะขยาย จนวันที่ 30 เมษายน 2567 ชีวิตจะสำเร็จ ร่ำรวย ทุกประการ ฟันธง ราศีเมษ? อ.ลักษณ์ : ราหูโคจรทับเรือนชะตามาปีครึ่งแล้วจนถึงวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ราหูทับราศีเมษปกตินะ มันไม่ดีหรอก แต่มันมีดีอยู่ด้วย มันต้องสู้ไม่ถอย ลุย หลัง 17 ตุลาคม ชาวราศีเมษจะรุ่งเรือง สำเร็จบนความเริ่มต้นแล้วอย่างตั้งใจ ฟันธง ราศีมีน? อ.ลักษณ์ : ราหูจะโคจรจากเมษไปทับราศีมีน หลัง 17 ตุลาคม คนที่อายุมากแล้ว คนที่ป่วยออดๆ แอดๆ ต้องตรวจให้ดี มันมีเกณฑ์ป่วยเจ็บ และต้องมีอันเป็นไป มันน่าเป็นห่วง แต่ถ้าเกิดเรายังหนุ่ม ยังสาว อย่าไปกลัว ราหูทับเปลี่ยนไป แปลว่าไม่ใช่ตาย แต่เปลี่ยนชีวิต  เปลี่ยนการงาน เปลี่ยนรูปแบบ เปลี่ยนแล้วดี ฟันธง ใครอยู่ราศีมีนที่อยู่ในอาชีพดารา นักแสดง รุ่งโรจน์เลย เพราะราหูเป็นเงาแสงมาทับตัวเอง ใครเป็นพ่อค้า แม่ค้าไลฟ์สดดีเลย ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama คลิปสัมภาษณ์ อ.ลักษณ์ ราชสีห์ 

แพนเค้ก เขมนิจ เปิดชีวิตหลังแต่งงาน เม้าท์สามี พี่หมี เป็นคนเป๊ะมาก ส่วนตัวเองเป็นภรรยาเวอร์ชั่นดื้อเงียบ?! นางเอกดีกรีนางแบบคนดัง แพนเค้ก เขมนิจ ที่วันนี้จะมาเปิดชีวิตหลังแต่งงานกับสามี สารวัตรหมี แถมงานนี้เจ้าตัวยังเม้าท์ว่าสามีขี้บ่นขั้นสุดอีกด้วย พร้อมเปิดใจหลังคนชอบถาม เมื่อไหร่จะมีทายาท ผ่านทาง รายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง วัน31 ที่มีหนิง ปณิตา, เป็กกี้ ศรีธัญญา และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ล่าสุดเพิ่งพาครอบครัวไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น? แพนเค้ก : ใช่ค่ะ จริงๆ เป็นทริปบุญ พระอาจารย์ ว. ท่านไปร่วมบุญที่นู้น เป็นวัดไทย แล้วจะมีการยกช่อฟ้า ท่านเลยอยากชวนแพนและครอบครัวไปร่วมบุญใหญ่ แล้วเราไม่ได้มีเวลาเยอะ เลยเตรียมตัวและตั้งใจเพื่อทริปนี้เลย แต่ทำไมคุณสามีถึงไใ่ไปด้วยค่ะ? แพนเค้ก : ติดภารกิจ ทำงาน ไปแค่ 3-4 วันเอง ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวไว้เราแพลนเป็นทริปที่ 7-8 วันแล้วได้ไปทั้งครอบครัว พี่หมีไม่น้อยใจเหรอ? แพนเค้ก : ไม่น้อยใจค่ะ เขาโอเค เข้าใจ เขาบอกให้พี่ได้อยู่บ้านแบบสบายๆ บ้าง แต่ก็มีบ่นคิดถึงกันปกติ อาจจะมีเสียง2 บ้างเล็กน้อย แล้วแต่สถานการณ์  ไม่คิดว่านางเอกเบอร์ต้นๆ ของประเทศไปทำศัลยกรรมมาแล้วกล้าที่จะพูดว่าไปทำมา? แพนเค้ก : จริงๆ ตอนก่อนทำกังวลจริงๆ แล้วก็กลัว เราก็คิดว่าตาเราไม่เท่ากัน 2 ชั้นก็ติดสติ๊กเกอร์ไปก็จบ แต่พอได้ไปทำงานกับคุณหมอ คุณหมอบอกว่านิดนึงนะแล้วมันจะเปลี่ยนเลย เราก็บอกคุณหมอขอธรรมชาตินะ พอหน้าเราเปลี่ยนไปจากเดิมแล้วมันไม่ใช่เรา ก็ไปหาข้อมูล ยังไม่ได้ตัดสินใจจะทำ ดูความมั่นใจของคุณหมอ สุดท้ายมัวแต่คิดนาน คนที่ทำก่อนคือแม่ จริงๆ น้องแพนไม่ทำก็สวยนะ ทำไมถึงตัดสินใจทำ? แพนเค้ก : แพนว่าทันถึงจุดที่เราคิดว่าเราจะเปลี่ยนแปลง พอเราเห็นคุณแม่ทำแล้วมันดีขึ้นนะ บางทีมันไม่ใช่เพื่อสวย แต่มันเป็นการรักษาด้วย แล้วพอตอนแพนทำ แพนเจอว่าแพนเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เพิ่งรู้ตอนที่ทำเลย  พอทำเสร็จแล้วโหงวเฮ้งเป็นยังไงบ้าง? อาจารย์เป็นหนึ่ง : ความโชคดีของน้องโหงวเฮ้งดีอยู่แล้ว เขาแค่ไปเติมนิดหน่อยให้รู้สึกว่าตาโตขึ้น พี่หมีว่ายังไงบ้าง? แพนเค้ก : เขาก็มีเอะเหมือนกันก่อนจะไปทำ ก็กลัวว่ามันจะเปลี่ยนหรือเปล่า แต่เรื่องจากว่ทเห็นคุณแม่พร้อมกัน มันค่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลงนะ เข้าที่ขึ้น พอแพนไปทำพี่หมีก็บอกว่า บ๊ายๆ ไปก่อนนะ เข้าห้องไป พอออกมาเสร็จก็ชะโงกหน้าดูว่าทำเสร็จแล้วนเ เขาก็นิ่งๆ เขาก็คงมีความตื่นเต้นอยู่เหมือนกันว่าจะออกมาเป็นแบบไหน ซี่งมันก็มีเวลาบวมของมันอยู่สักอาทิตย์นิดๆ มันก็ค่อยๆ เข้าที่ขึ้น ถ้าสมมติพี่หมีเบรกขึ้นมาคุณจะทำไหม? แพนเค้ก : โชคดีนะที่พี่หมีไม่พูดแบบนั้น ถ้าไม่ใช่เรื่องอะไรที่ไม่ได้จริงๆ พี่หมีจะไม่ฟันธงหรือไม่พูดขนาดนั้น แต่เราก็พยายามยกข้อดีขึ้นมา แม่ทำดีนะ ชีวิตคู่หลังแต่งงาน เป็นยังไงบ้าง ชินกับบทบาทการเป็นภรรยาแล้วหรือยัง? แพนเค้ก : อาจารย์บอกว่าเธอสองคนดูไม่เป็นแตกต่างเลย อาจารย์เป็นหนึ่ง : ด้วยความที่เราอยู่ติดเขาเกือบตลอดเวลา เราเคยพูดว่าพี่หมีกับน้องแพน คือชีวิตเหมือนกับไม่มีอะไรแตกต่าง เขาใช้ชีวิตเหมือนเดิมทุกอย่าง เขาใช่ชีวิตเหมือนเพื่อนกัน แพนเค้ก : อาจจะเพิ่มขึ้นคือห่วงกันมากขึ้น มีการถามไถ่ เราเองก็อาจจะมีการแอคชั่นอะไรมากขึ้น ไม่ปล่อยปะละเลยในมุมของเรา ที่ใส่ใจมากขึ้นคืออะไรบ้าง? แพนเค้ก : พี่หมีค่อนข้างทำทุกอย่างได้หมด เราอาจจะแค่ถามเขาหน่อยว่าเขาเป็นยังไง โอเคไหม วันนี้กินอะไรหรือเปล่า คือถามเขาหน่อย ส่วนใหญ่เขาจะเป็นคนดูแลเรามากกว่า พี่หมีแสดงความเป็นสามีมากขึ้นและชัดเจน? แพนเค้ก : เขารู้สึกแบบได้ดูแลเราเต็มที่ พอเป็นครอบครัวปุ๊บ พอมีอะไรก็เหมือนเป็นเขาที่จะดูแลเรา แต่ก่อนจะเป็นแม่ แต่แม่ก็ยังอยู่เหมือนเดิม แต่เขาก็โอเคให้ลูกได้ดูแลกัน ได้ตัดสินใจ ทำนู้นนี่ พี่หมีเลยลุกขึ้นมาตัดสินใจในสิ่งต่างๆ มาคุยกันมากขึ้น พี่หมีขี้หึงไหม? แพนเค้ก : มีเป็นปกติ แต่ส่วนใหญ่เราจะบอกว่าต้องคุยกัน เกิดแบบบางทีคิดไปเองหรือมีอะไรไม่เข้าใจเราไม่อยากให้มีปัญหาอะไร ก็เลยโอเคมาคุยกัน ถามกันดีกว่า พี่หมีหึงจากอะไร? แพนเค้ก : บางทีงานที่เราทำ บางทีคนที่เราไปเจอ บางทีหลายๆ อย่าง แต่ที่สำคัญเลยบอกว่าคุยกันดีที่สุด แล้วค่อยๆ ผ่านไป  นอกจากความห่วงใยที่มีให้เต็มแล้ว แต่ก็มีความรู้สึกว่าเต็มไปหน่อยนะ นั่นคือความเจ้าระเบียบของคุณพี่หมี? แพนเค้ก : ใช่ค่ะ เป็นคนมีระเบียบดีกว่า แล้วก็ที่บ้านก็จะเป็นแบบชิลๆ บางทีวางอะไรไปก็สามารถเดินผ่านมันไปได้แบบไม่เป็นไร ด้วยความที่พี่หมีมาจากบ้านที่เป็นระเบียบเรียบร้อย จัดพื้นที่อะไรต่างๆ ถ้าเขาอารมณ์ดี เขาจะเดินผ่านได้ แต่ถ้าวันไหนมองบ่อยๆ ช่วยเก็บหน่อยได้ไหม เพราะบางทีพี่ก็เป็นคนซุ่มซ่ามเหมือนกัน ขอเผื่อพื้นที่ให้เดินหน่อยได้ไหม ตัวเขาก็ใหญ่กว่าเรา แล้วเราบางทีรู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวอันนี้ต้องโดนแน่เลยก็ยังปล่อยไว้ เราเชื่อฟังเขาใช่ไหม? แพนเค้ก : เราก็มีบ้างที่เราดื้อ แข็งข้อบ้าง ส่วนใหญ่จะดื้อเงียบ ฟังอาจจะทำบ้างไม่ทำบ้าง บางทีมันเป็นความเคยชินของเราที่มีคนช่วยเตือน ช่วยบอก แต่พอวันที่เราต้องมาทำหรือเราต้องดีไซน์ ต้องคิด ต้องทำอะไรอย่างนี้ มันก็เป็นความยากของแพนเหมือนกัน เราจะยังไงดีนะ ต้องตัดสินใจเอง  พี่หมีจะเป็นคนเป๊ะมาก ต้องเวลานี้นะ ใช้นโยบายโรงเรียนตำรวจ? แพนเค้ก : คือบริหารจัดการทุกอย่างเป็นระบบ เขาจะมีการเผื่อเวลา เราไม่เคยเผื่อ เรามาช้ากว่าเวลาตลอด ก็เป็นอะไรที่ต้องปรับกัน แต่ก็มีบางเรื่องเขาก็ปรับไปตามเราบ้าง เราก็ผ่อนๆ ลงไปคนละเรื่องเนาะ มีตั้งกฎกันไหม เรื่องนี้พี่หมีห้ามยุ่ง เรื่องนี้แพนห้ามยุ่ง! แพนเค้ก : ไม่ค่อยมีอะไรที่เป็นแบบเป๊ะๆ เพราะเรารู้สึกว่าทุกอย่างมันยืดหยุ่นได้ และบางทีมันผ่อนได้ เป็นคนสบายๆ ถ้าถึงเวลาทำงานเราก็จริงจังในโหมดของเรา อาจารย์เป็นคนบอกเองถ้าพี่หมีโมโหหิวห้ามยุ่ง? แพนเค้ก : คือเป็นเวลา คือกินก็อยากให้กินกันเป็นเรื่องเป็นราว คู่นี้เขาอยู่กันสบายๆ ไม่เป็น เขาชอบแหย่อารมณ์กัน? แพนเค้ก : บางทีแพนหลุดพูดอะไรไปบางทีเราไม่ได้คิดเหมือนกัน พูดไปอาจจะผิดเวลา ผิดเรื่องราวอะไรแบบนี้ ไม่ใช่มุมพี่หมีอย่างเดียว ตัวเราบางทีก็มีเหมือนกันในสิ่งที่เขารับจากเราไป อารมณ์เราก็มีบ้าง แต่แพนจะเป็นแนวนิ่งมากกว่า เราจะไม่ค่อยพูด แต่พี่หมีถ้าเขารู้สึก เขาจะพูดเลย แต่แพนไม่ค่อยพูด เขาบอกแพนเค้กเป็นภรรยาและเป็นผู้หญิงที่ดุมาก? แพนเค้ก : มันอาจจะมีโหมดนั้นบ้าง แต่เราอาจจะไม่ได้อะไรเยอะมาก แต่มัมที่เราเสียงแข็งบ้างก็มี หรือบางทีพูดกันไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง ก็เลยบอกว่าพี่หมีแพนต้องขอพูดเลยนะว่าเรื่องนี้แพนจะไม่ปล่อยผ่านนะ จะต้องคุยกันให้จบ ก็จะมีมุมเสียงแข็งบ้าง เห็นว่าบางครั้งคุณแพนขึ้นปรี๊ดจนต้องเอาหมอนปิดหน้าเลย? แพนเค้ก : ใช่ค่ะ ด้วยความที่เราเป็นคนไม่พูดแล้วเราไม่อยากโวยวายต่อหน้าคนอื่น บางทีขึ้นห้องบ้าง บนรถบ้าง แล้วเอาหมอนปิดแล้วก็กรี๊ด มันช่วยได้ไหม? แพนเค้ก : สัก 2 ทีมันก็พอได้ กรี๊ดสุดเสียง กรี๊ดเสร็จไปหันไปมอเตอร์ไซค์จะได้ยินเสียงไหม ก็มีฟิวอะไรแบบนั้นเหมือนกัน ให้มันได้ปลดปล่อย ให้มันได้มีวิธีของเราบ้าง ถ้าวันนึงมีผู้หญิงเข้ามาคุยกับพี่หมี เธอจะหึงไหม? แพนเค้ก : โดนส่วนตัวแพนคิดว่าพี่หมีไม่ได้มีอะไร ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา เขาไม่ได้มีพาร์ทอะไรแบบนั้น แต่ก็จะมีบ้างที่ไปบางที่ที่เราจะแบบว่าเอาสักหน่อย แบบมีคนเข้ามาคุย เราก็ยืนไขว้หลังพยายามไปให้เขาเห็นแล้วสบตา ตั้งแต่แต่งงานมาคุณพี่หมีเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน? แพนเค้ก : มีบางมุม เขาค่อยๆ มีปรับกันไปบ้าง ถ้าชัดๆ สมมติว่าเรื่องแต่งตัว เสื้อผ้า ปกติเขาจะโทนเข้มหมด แล้วเราจะเป็นโทนขาว ครีม สดใส เขาจะบอกว่าทำไมต้องใส่สีอ่อน เขาว่ามันไม่โอเค ใส่แล้วเขาดูตัวใหญ่ แรกๆ ใส่เถอะ มันดูดีนะ พอหลังๆ ไม่พูดดีกว่า เอาที่เขาสบายใจ บางทีเราก็จัดแจง ดีของเรากับสิ่งที่เขาชอบอาจจะคนละแบบก็ได้ มีเรื่องหนึ่งที่ทำให้แพนอึดอัดมากๆ แล้วอย่ามาถามฉันอีกเรื่องนี้? แพนเค้ก : จริงๆ ไม่ขนาดนั้น แต่เป็นฟิลแบบเกรงใจ เพราะบางทีคนจะถามเรื่องมีลูก จะมีน้องหรือยัง เราเข้าใจแหละว่า รอ เราก็เลยแบบว่า ณ ตอนนี้ชิลกัน เรารู้สึกว่าเราแฮปปี้ในพาร์ทของการแต่งงาน การดูแลซึ่งกันและกันในวันนี้ แล้วก็การทำงานของเรา ณ วันนี้ ก็เลยคิดว่าคงสักแป๊บ มีแพลนหรือยังว่าอีกกี่ปี? …

แพนเค้ก เขมนิจ เปิดชีวิตหลังแต่งงาน เม้าท์สามี พี่หมี เป็นคนเป๊ะมาก Read More »

“เจนี่” เปิดคลิปลับ “โนล่า” เล่นเอาน้ำตารื้น! เผยเหตุที่ออกกำลังกายหนัก เพราะอยากเด็กตลอดไป ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมานิยาม สำหรับตัวแม่ ตัวมัม นางพญาอย่างผู้หญิงที่ชื่อ “เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร” เพราะนอกจากความแซ่บที่พกมาเต็มร้อยจนต้องตะลึง! แล้ว ในปาร์ตี้วันเกิดที่ผ่านมาก็ฮือฮาไม่ใช่น้อยกับ “ชุด(ใน)วันเกิด” ที่หลายคนสงสัยว่าลืมใส่กางเกงมาไหม? พร้อมแจงทริปญี่ปุ่นที่หอบสามีและลูกไปเที่ยว ว่าเป็นการสยบข่าวลือไหม? ซึ่งเจ้าตัวขอเคลียร์ทีเดียว ผ่านรายการ คุยแซ่บโชว์ ทางช่องOne31 และยังเผยถึงสาเหตุว่าที่ออกกำลังกายทุกวันก็เพื่อสิ่งนี้ ชุดในวันเกิด? “เพื่อนบอกว่าเป็นธีมสูท แต่ไม่ได้บอกว่าข้างในต้องใส่อะไร นานาแจ้งธีมมา เห็นไหมเราก็ใส่ตามที่เขาต้องการ และสถานที่จัดงานก็มีแต่พวกเรา เพราะชุดนี้เราก็ดีไซน์เองด้วย ซึ่งวันเกิดปีนี้สิริรวมก็ 24 แล้วกัน แต่ด้วยความที่ปีนี้เรา 40 แล้ว เราอยากจะสโลว์ไลฟ์ เลยไม่อยากจัด อยากเรียบง่าย ช้าๆ อย่าให้ไปปีหน้าได้ไหม อยากจะให้รู้สึกเด็กตลอดเวลา และพอมาจัดแล้วเป็นข่าว เหมือนมาประกาศว่าฉัน 42 แล้วนะ แต่ยืนยันว่าชุดที่เราใส่ ไม่ได้ลืมใส่กางเกงนะ มันเป็นลุค และวันเกิดปีนี้ึืนานาเป็นคนจัดให้ พี่หนิงจัดหาสถานที่ นานาก็บอกว่าเพื่อนให้เราอยู่เฉยๆ แต่เจนแค่รีเควชว่าขออาหารที่เป็นปลา แต่กินไป 2 คำ บล็อคโคลี่ 1 ชิ้น แซลมอนชิ้นเล็กๆ 1 ชิ้น” โมเม้นต์ซึ้งๆ ที่เกิดขึ้น? “โมเม้นต์ซึ้งๆ เกิดขึ้นทุกปี ด้วยความที่วันเกิด เพื่อนๆ ชอบอวยพร พูดอะไรให้น้ำตาแตก โดยเฉพาะนานา ที่ร้องแล้วปากเบี้ยว (ยิ้ม) ที่อวยพรหลักๆ คืออายุเท่านี้ เราก็ซึ้ง และเวย์ก็น้ำตาแตก เป็นพี่ชายและน้องสาว เพราะนานาชอบอัดไว้ เวย์อวยพร เราซึ้ง น้ำตาแตกไปเลย” กลับบ้านไปสามีว่าไหม? “กลับไปเขาก็หลับแล้ว แต่จริงๆ คือเจนเปลี่ยนชุดในรถ (หัวเราะ) ชุดที่เราใส่ออกมาจากบ้าน เป็นสูทผู้ชายตัวใหญ่ๆ แต่ไม่เห็นว่าข้างในเราใส่อะไร” ของขวัญจากสามีและลูกสาว? “เขาก็เซอร์ไพร์สเค้กตั้งแต่วันที่ 10 แล้ว เป่าเค้กกัน ซึ่งโมเมนต์ของลูกสาวคือน่ารัก เขาเป็นเด็กชอบพูดคะ พูดขา จริงๆ เมื่อวานไปรับที่ รร. เขาจะดีใจมาก เขาจะติดเรา และเมื่อเช้าตื่นมา ก็ถามว่าเราจะไปรับเขาอีกไหม พอเราบอกว่าไม่น่าจะทัน เขาก็จะเปลี่ยนสีหน้าไปเลย” เห็นเปรี้ยวๆ แบบนี้เจนี่เลี้ยงลูกไหม? “คนอื่นเห็นเราทำงานอย่างเดียว จนนานาบอกจะเอาคลิปในมือถือที่เราอยู่กับลูกไปโพสต์แล้ว เราอยากจะเก็บไว้ชื่นชมคนเดียว เราไม่รู้ว่าคนอื่นจะเอ็นดูลูกเรา เหมือนที่เราเอ็นดูไหม” เลี้ยงโนล่า โมเมนต์ไหน เติมเต็มชีวิตเรายังไง? “เหมือนตื่นตอนเช้า มาเจอแฟน หอมปาก ดมเท้า ดมมือ ดมทุกซอกทุกมุม เหมือนเป็นยา ยาใจเรา เป็นโมเม้นต์พิเศษ มีความสุข สุขที่สุดในโลกแล้ว วันเกิดเขาก็มีอวยพรเราด้วยนะ (เปิดคลิปโนล่าอวยพรว่า “ขอให้มามี๊มีความสุขมากๆ คะ”) เราก็จะบอกเขาทุกเช้าว่าเรารักเขานะ” แล้วลูกเราเห็นชุดที่เราใส่ไปในวันเกิดไหม? “ไม่ควรค่ะ (ยิ้ม) แต่ถ้าเขาเห็น เขาไม่ได้ว่า แต่เขาจะถามว่าเราลืมใส่อะไรหรือเปล่า หรือใส่ชุดอะไรที่ผิดปกติ” และชุดที่ลงในไอจี คือสุดมาก? “ยังลงไม่หมดนะ เพราะบางชุดที่ใส่และโพสต์ เราอยากจะเก็บความทรงจำไว้ทุกในช่วงอายุ ปีนี้โจทย์ที่ให้พี่ๆ ช่างภาพไป เจนไม่อยากลองพื้น อยากโชว์ความสุขภาพดี เป็นเฮลตี้เกิร์ลจริงๆ แต่งหน้าน้อยมาก และตอนถ่ายเซทนี้ เจนเขินมาก เราก็บอกช่างภาพว่าเราจะไหวไหม เราไม่เคยทำคอนเทนส์แบบนี้ มันไม่ใช่สไตล์เรา ร้องเพลงไปด้วย ก็บอกน้องช่างภาพไปว่าเราจะรอดไหม อายุเยอะแล้ว เจนบอกว่าทำไป คนอื่นจะเก็ทไหม น้องช่างภาพบอกว่าเราทำได้ เราคือตัวแม่ เราคือแรเงา ซึ่งตอนถ่ายนิ้วไหม้ ตอนแรกจุดไฟ 10 นิ้ว สรุปนิ้วไหม้ ก็ต้องเป่าให้ดับ สุดท้ายจุดนิดเดียว” ตอนนี้เทรนด์ทำหน้าอก ไม่พอใจ เพราะเจนี่นำเททรนด์หน้าอกเล็ก? “คือที่เห็นโนบราชุดสีแดง คือมีผ้าพื้นเดียว พันตัวเราและติดกาวสองหน้า ทำ 5 นาทีเสร็จ” อีกเรื่องหนึ่ง อะไรที่ทำให้ออกกำลังกายหนัก และควบคุมอาหารขนาดนี้? “ตั้งใจว่าจะเด็กตลอดไป คือไม่ใช่อยากจะเป็นเด็กอายุ 20 นะ เพียงแต่เราอยากสต๊าฟร่างกาย สุขภาพเราไว้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ แต่เจนไม่กินนมเนย เราจะแพ้ ส่วนที่มันๆ เราก็กินไม่ได้ แต่ออกกำลังกายเราออกหนักมา 2 ปีหลังๆ ขี้เกียจไม่ได้ ขี้เกียจไม่เป็น มันทำให้เราเริ่มต้นวันได้ดี เรื่องอะไรหนักๆ จะหายไปกับเหงื่อ เรานอนเร็วไม่เกิน 4 ทุ่ม วันนั้นง่วงมาก เจนบอกมิกเลยว่าช่วยดูโนล่าหน่อยนะ คือไม่ไหวแล้ว” ทริปกระชับรักที่ญี่ปุ่นสยบข่าวลือหรือเปล่า? “เป็นเรื่องปกติของครอบครัวคือเจนไม่ชอบลงโซเซียล มันจองไว้ตั้งนานแล้ว ไม่ได้เป็นเพราะข่าว ไปไหนมาไหนก็เพื่อลูกเท่านั้น เราพยายามเทคความรู้สึกของเขาจริงๆ แต่อย่าบอกใครนะว่าเป็นคุณแม่ จริงๆ คือเป็นคนใช้ ให้กับตัวเองและลูก เราต้องทำให้ทุกอย่าง เพราะฉะนั้นต้องดูแลตัวเอง และถ้าพุ่งนี้มีงาน คืนนี้ต้องรีดผ้าเอง 4 ชุด จนลูกสาวนั่งมองงงๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมไม่ให้แม่บ้านทำ คือแม่บ้านมาแค่ช่วงเช้าและเขาก็กลับ แต่เจนทำเองทุกอย่าง เสื้อผ้าลูกทั้งตู้เราทำเอง” ที่ไม่รับละครเพราะอะไร?  “ไม่ได้ออกจากวงการ เจนก็ยังรับงานในวงการ อยากเล่นละครอยู่ เราโตที่กองถ่าย เมื่อไรมีบทดีๆ เรารับได้ทุกเมื่อ แต่ที่ไม่ค่อยได้เห็นด้วยเวลา และบทมันก็ซ้ำๆ กลัวคนเบื่อ เจนอยากปล่อยของ เจนจะเล่นให้สุด ไม่ปล่อยแม้แต่วินาทีเดียว อยากให้คนดู ดูแล้วมีความสุข เล่นร้ายและไม่กลัวว่าเดินออกไปข้างคนจะเกลียดเรา เพราะถ้าเขาเกลียด แสดงว่าเราเล่นถึง เล่นให้สุด เราจะได้ไม่เสียใจ” บทอะไรที่อยากเล่นอยู่? “อยากเล่นเป็นคนบ้า แต่ชีวิตจริงก็ 10 ล้านอารมณ์ต่อวันอยู่แล้วนะ แต่เวลาคนส่งบทมา เราก็ยังคิดว่ายังได้อีกนะ เพราะถ้าเราอ่านแล้วมันคลิก มันก็จะรับได้ ส่งมาเลย รับได้อีก” ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama คลิปสัมภาษณ์ เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร

“กรีน อัษฎาพร” เปิดใจครั้งแรก หลังโพสต์รูปหนุ่มปริศนาชมวิวแม่น้ำ-ขับรถส่งสนามบิน หรือจะมีรักครั้งใหม่? ดูเหมือนว่าช่วงนี้ชีวิตของนางเอกสาว กรีน อัษฎาพร จะกลับมาดี๊ด้าอีกครั้งซะแล้ว หลังประกาศตัวว่าโสด ปิดฉากรักกับอดีตหวานใจไปไม่นาน จากนั้นเจ้าตัวได้บินไปเรียนภาษาที่ประเทศเกาหลี ซึ่งสาวกรีนได้โพสต์ภาพคู่กับหนุ่มปริศนา นั่งคู่กันหันหลังชมวิวแม่น้ำฮัน แถมมีหนุ่มขับรถมาส่งที่สนามบินอีกด้วย แต่ที่ทำเอาชาวเน็ตสงสัยหนักมากเพราะเธอเอาสติ๊กเกอร์แปะตรงหน้าหนุ่มคนนี้เอาไว้ เอ๊ะ…หรือจะเป็นรักครั้งใหม่กันนะ ล่าสุด สาวกรีน ได้มาเปิดใจถึงเรื่องนี้ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne 31 ที่มีธัญญ่า ธัญาเรศ และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ เกาหลี เกาใจ ไปทำอะไรมา? กรีน : ไปเรียนภาษาเกาหลีค่ะ แล้วต้องกลับไปอีกไหม? กรีน : อยากกลับไปอีก แต่ต้องกลับมาปั๊มเงินก่อน ภาษาพูดได้หรือยัง? กรีน : ได้ประมาณหนึ่ง แต่มันยังเป็นแบบเบสิคมากๆ  แล้วกับประเด็นอยู่ตอนนี้ หนุ่มแม่น้ำฮัน ตรงนั้นส่วนใหญ่คู่รักเขาไปเดทกัน? กรีน : เป็นเพื่อนค่ะ คนไทยหรือเกาหลี? กรีน : คนเกาหลีแท้ 100% ค่ะ แล้วไปเจอกันได้ยังไง? กรีน : คือเจอน้องคนไทย พอเราอยู่ต่างประเทศ เจอคนไทยมันจะต่อกันติดง่าย แล้วเขาบอกพี่กรีนเดี๋ยวมีเพื่อนเกาหลีจะมากินข้าวด้วย มาด้วยกัน เราก็บอกได้ๆ ก็เลยได้รู้จักกัน แล้วเขาชอบประเทศไทยมากๆ เขาพูดภาษาไทยได้ เขาจีบกรีนไหม? กรีน : ไม่นะคะ ไม่รู้ ไม่น่านะ เพื่อนกันเวลาแนะนำ เธอนี่เพื่อนเรา กรีนนะ โสดอยู่ตอนนี้ เขาแนะนำแบบนี้ไหม? กรีน : ไม่นะคะ ก็คุยกัน โสดกันทั้งคู่ เขาก็โสด คือหมายถึงเราแนะนำให้รู้จักกัน เพื่อนก็แบบพี่กรีนก็ไม่มีแฟน พี่ฮารังก็ไม่มีแฟน คือหลายๆ คนก็ยังไม่มีแฟน เหมือนเราคุยๆ กันว่าอยากได้แฟนเกาหลีจังอะไรอย่างนี้ หมายถึงคนอื่นนะ ไม่ใช่หนู คุยกันทำยังไงดี คุยกันเล่นๆ เฉยๆ ไม่ได้มีอะไร ตอนนี้ทั้งคู่เป็นเพื่อน แต่อนาคตจะพัฒนาได้ไหม? กรีน : ไม่รู้เหมือนกัน แล้ววันนั้นไปนั่งริมแม่น้ำทำอะไรกัน? กรีน : ไปถ่ายรูปเล่น แล้วน้องก็บอกว่าพี่กรีนๆ ลองนั่งกับพี่ฮารังหน่อยสิ นั่งคู่กัน ก็ถ่ายเป็นคอนเทนต์เฉยๆ  ลึกๆ เราอยากได้หนุ่มเกาหลีไหม? กรีน : เขาเป็นคนน่ารัก พูดไทยได้ พอพูดไทยได้เราก็สบายใจ เพราะเราพูดเกาหลีไม่ค่อยเก่ง พอมีเขา ซึ่งเขาเป็นคนเกาหลีแท้ๆ เขาก็จะพาเราไปกินนั่น กินนี่ทุกอย่าง แล้วมีเขาเป็นคนทำให้ แล้วเขาก็ค่อนข้างเอาใจใส่ทุกคน ดูแลทุกคน เขาทำให้เรายิ้มได้ไหม? กรีน : ยิ้ม หนูก็ขำนะคะ เพราะเขาพูดไทยไม่ค่อยชัด แต่เขาพูดได้ ก็เลยมีมุมที่ตลกๆ แล้วหนุ่มที่มาส่งสนามบินคือคนเดียวกัน? กรีน : ใช่ค่ะ ที่เอาสติ๊กเกอร์แปะหน้าไว้ เพราะคนเกาหลีค่อนข้างจะไพรเวท หนูเลยไม่อยากเปิดมาก เดี๋ยวเขาไม่ไหว คือเขาเป็นคนธรรมดา เขาอาจจะไม่ชินกับเรื่องตรงนี้ โครงร่างดี หน้าหล่อไหม? กรีน : ก็สไตล์เกาหลีแบบแท้ๆ เกาหลีแบบไม่ได้ทำอะไรเลย เกาหลีจริงๆ  พื้นฐานดี? กรีน : ก็ดีมั้งค่ะ แสดงว่าสถานะของกรีนตอนนี้ยังโสด? กรีน : ค่ะ ใช่ อนาคตจะพัฒนาหรือเปล่าไม่รู้? กรีน : อาจไม่ใช่คนนี้ หรือคนอื่น หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน กลับมาทำงาน มาปั๊มเงิน ไม่รู้ว่าจะกลับไปอีกไหมมีคอนแท็กกันไหม? กรีน : มีคุยกัน เพราะว่าหนูอยากเรียนภาษาเกาหลีด้วย แล้วกลัวลืมก็เหมือนคุยกับเขา เขาก็คุยเป็นภาษาเกาหลี หนูก็ตอบเป็นไทยบ้าง เกาหลีบ้าง แล้วก็ถามว่าอันนี้ถูกไหม ผิดไหมให้เขาแก้ พร้อมมีรักครั้งใหม่หรือยัง? กรีน : หนูไม่ได้ปิด ก็พร้อมเปิดตลอด เพียงแค่ยังไม่ได้เจอคนที่ใช่ หรือถ้าเกิดสมมติเราเจอคนที่มีความสเปคเรา แต่ก็ต้องเรียนรู้กันอยู่ดี เวลาตอบตาเป็นประกาย มีรอยยิ้มก็สบายใจแล้ว? กรีน : คือเขาน่ารัก เป็นคนตลก ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

 Iron Chef สุดดุดัน!!เปิดศึก“อาหารสปนสุดสร้างสรรค์” “เชฟโอลิเวอร์”ใจใหญ่ขอลองของท้าดวล “เชฟพกฤษ์” ยังคงดุเดือดกับการประชันฝีมือของเหล่าสุดยอดเชฟทั่วทุกมุมโลกกับรูปแบบและกติกาใหม่ของรายการ Iron Chef Thailand One On One Battle ของบริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป จำกัด นำทีมความสนุกโดยมีสองพิธีกรคนเก่ง ตั๊ก นภัสกร มิตรธีรโรจน์ และ ได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ     แรงไม่มีแผ่วกับการประชันฝีมือของเหล่าบรรดาเชฟจากทุกสายอาหารทั่วประเทศในรายการ เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย  รูปแบบและกติกาใหม่ Iron Chef Thailand One On One Battle   สัปดาห์นี้พบกับเชฟหนุ่มมากฝีมือผู้มีสไตล์โดดเด่น Chef Oliver Afonso Gonzalez (เชฟโอลิเวอร์) เชฟอายุน้อยแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ที่เคยเป็นมือขวาของเชฟระดับโลก Chef Nandu Jubany เชฟระดับมิชลินสตาร์ชาวสเปน รวมถึงเคยทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่น จึงทำให้เชฟโอลิเวอร์สามารถผสมผสานอาหารได้หลากหลายแนว การก้าวเข้าสู่สนามประลอง คิทเช่นสเตเดี้ยม   เพราะอยากท้าประลองกับเชฟพกฤษ์ เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย  …

 Iron Chef สุดดุดัน!!เปิดศึก“อาหารสปนสุดสร้างสรรค์” Read More »