จอย-ศิริลักษณ์ บอกเล่าเรื่องราวถูกกระทำผ่านตัวละคร รณรงค์ให้ผู้หญิงลุกขึ้นสู้

จอย-ศิริลักษณ์ บอกเล่าเรื่องราวถูกกระทำผ่านตัวละคร รณรงค์ให้ผู้หญิงลุกขึ้นสู้

ในสังคมปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่า เรื่องของผู้หญิงถูกกระทำยังคงมีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหน เพศไหน ก็มักตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงต่างๆได้เสมอ ล่าสุดสาว “จอย-ศิริลักษณ์ ผ่องโชค” ที่รับบท “ใบศรี” หญิงสาวแสนดีที่พูดไม่ได้ในละคร “บ่วงใบบุญ” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง8  กลับมีคาแรคเตอร์ ที่คล้ายกับคนในยุคนี้  และหลายคนคงสงสัยว่า ทำไมในละครเธอถึงยอมโดนดูถูก เหยียดหยาม แถมโดนแม่สามีที่เป็นผู้หญิงด้วยกันคอยทำร้าย แต่หากมองลึกลงไป ตัวละครตัวนี้ กลับเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิง หรือคนที่อ่อนแอในทุกเพศ ให้หันมาตกผลึกในใจที่มีต่อตัวเอง และเปิดใจยอมรับ ให้อภัย เปิดรับสิ่งใหม่ๆ และมีความเมตตาต่อรูปแบบปัญหาต่างๆ จนสาวจอยขอออกมาเปิดใจว่า เธอได้เรียนรู้หลายอย่างจากตัวละครตัวนี้ ว่าสามารถใช้ปรัชญาธรรมะนำชีวิตได้ 

ใบศรีเป็นต้นแบบผู้หญิง ในเรื่องอะไร ที่ผู้หญิงทุกคนต้องดู?

ไม่น้อยใจในโชคชะตา และมีธรรมะในใจเป็นที่พึ่ง จอยเชื่อว่าสองเรื่องนี้จะนำพาให้เราผ่านเรื่องราวต่างๆไป จอยเองก็เช่นกันที่มองแบบนี้  ใบศรีทำให้เห็นว่าตัวละครนี้ใฝ่ดีแค่ไหน บางครั้งการทำของตัวเอง เวรกรรมก็ทำให้เราผิดพลาดต่างๆได้ แต่สำคัญว่าเราต้องรู้จักแก้ไข และไม่เป็นคนผิดซ้ำซาก

ในฐานะนักแสดงเราเห็นคุณค่าของตัวละครนี้อย่างไร?

เราเห็นคุณค่าของเขาในเรื่องจิตใจ ความเข้มแข็ง ฉลาด และกล้าหาญ จริงๆหลายคนอาจคิดว่าเขาไม่สู้ปัญหา แต่จริงๆเขาสู้มากๆเลย ครั้งที่หนึ่งไม่สำเร็จ เขาก็จะคิดว่าจะอย่างไรต่อไปดี ในความกตัญญู ที่ผูกกับความเสียสละของเขา ต่อให้ใบศรีออกไปจากบ้านเรือนบุญ เขาก็ไปไม่รอด อาจถูกจับไปอีก ด้วยความที่เขาก็พูดไม่ได้ อาจจะตกเป็นเหยื่อได้ง่าย พอเขาตัดสินใจอยู่ จากที่ระบิลพูด ว่าถ้าเธอเดินออกไป กับอยู่ที่นี้ อันไหนดีกว่ากัน ใบศรีเลยเลือกอยู่ที่บ้านหลังนี้ ไม่ใช่กลัวลำบาก แต่มีความกตัญญูต่อดอกรัก ขุนพระ และระดม ที่ดีกับเขามาตลอด ถึงแม้จะทุกข์ในเรื่องของสามี แต่เขาก็ยืนหยัดเพื่อความกตัญญู และเสียสละเพื่อลูกให้มีที่อยู่ที่กิน เพราะใบศรีผู้สู้คนยอมทุกอย่าง แต่กลับยอมเสียสละให้ลูกได้อาศัยอยู่ในบ้านเรือนบุญ ยอมถูกใช้งานหนัก แต่ไม่ยอมให้ลูกเดือดร้อน เขารู้จักการนำหลักธรรมที่พ่อสามีเคยสอนมายึดเหนี่ยวจิตใจ และสอนลูกต่อในเรื่องของความกตัญญู และหลักธรรมต่อคนรอบข้าง นั้นคือ“ความเมตตา” เราเลยเห็นคุณค่าของตัวละครตัวนี้มาก และหลงรักเขามาก

คิดเห็นอย่างไรในสังคมปัจจุบันที่ยังเห็นผู้หญิงถูกกระทำอยู่ตลอด?

ในทางอาชญาวิทยา คนทั่วไปเข้าใจได้อยู่แล้วว่าความรุนแรงไม่ได้เฉพาะทางร่างกาย แต่จิตใจก็มีผลเหมือนกัน อย่างเช่น ถูกทอดทิ้ง วิตกกังวล ความเครียด เรื่องของความหวาดกลัวทางจิตใจมันน่ากลัวทั้งหมด แต่ใบศรีเจอมาเยอะมากกว่านั้น เราต้องรู้ว่าความเท่าเทียมในสังคมยังรอการพัฒนาอยู่ ไม่ใช่เรื่องเพศอย่างเดียว จริงๆนิยามความเท่าเทียมไม่ได้จำกัดอยู่ที่ผู้หญิง แต่ก็มีทั้งผู้ชาย และ LGBT เหมือนกัน รวมถึงการด้อยโอกาส และความบกพร่องทางร่ายกาย อีกด้วย  จริงๆไม่ว่าเพศไหน หรือใครก็ไม่สมควรได้รับความรุนแรงอยู่แล้ว เพราะจริงๆคนที่อ่อนแอกว่าในทุกเพศของพวกเขา และทุกวัยต่างหากที่เราต้องมอง ดังนั้นจอยเลยรู้สึกว่าเราทุกคนควรช่วยกันคนละเล็กละน้อย ในทุกภาคส่วน อย่างเช่นด้านภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ ที่ทำมาในทุกยุคทุกสมัยก่อนหน้านี้ เราเห็นว่ามันมีเรื่องของวัฒนธรรมในเรื่องของความรุนแรง ความเอาใจใส่มาเกี่ยวของ ปัจจุบันเลยมีการจัดเรทในการออกอากาศของความบันเทิงต่างๆ เพื่อให้ตระหนักถึงความเหมาะสม หรือผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ และเลือกสื่อให้เหมาะกับวัยต่างๆ อีกส่วนหนึ่งด้านโซเชียลมีเดีย ตามแพลตฟอร์มต่างๆ ก็ควรมีจัดเรทด้วย และอย่างพรบ.ต่างๆในทางกฎหมาย ก็ควรมาร่วมมือกันหมด อย่างบ่วงใบบุญ เราจะเห็นในด้านศาสนาที่นำหลักคำสอนมาตักเตือนจิตใจของการครองตนในการใช้ชีวิตที่รู้จักผิดชอบ ชั่วดี และถ้าดูไปเราจะเห็นผลกรรมต่างๆของตัวละครที่เกิดขึ้น ดังนั้นทุกอย่างจะแก้ไขได้ ทุกภาคส่วนควรเข้ามาเกี่ยวข้อง และร่วมมือกัน

คนใกล้ตัว หรือบุคคลที่เรารู้จักเคยมาเล่าให้เราฟังไหม เหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?

มีบ้างค่ะ อย่างในช่วงที่เราเรียนอาชญาวิทยา เราได้ทำและศึกษาเรื่องความรุนแรง ได้มีโอกาสคุยกับผู้หญิงที่ถูกกระทำ และได้รับผลจากความรุนแรงในองค์กรต่างๆ แต่จอยขอไม่ลงรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆของเขา แต่เหตุการณ์ต่างๆก็รุนแรงไม่แพ้ตามหน้าข่าวที่ทุกคนเคยเห็นกันมา และบางรายอาจมีมากกว่านั้น แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะออกมาเปิดใจกับใคร

เราอยากจะบอกและให้กำลังใจกับผู้หญิงที่ถูกกระทำว่าอย่างไร?

จอยเชื่อว่าในสังคมยังมีคนที่ถูกทำร้ายร่างกาย และจิตใจอยู่มาก จอยอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคน เข้มแข็งในเร็ววัน และมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดี และอย่าลืมว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังคอยให้กำลังใจ และซัพพอร์ตพวกคุณเสมอ จอยก็ขอเป็นหนึ่งในนั้นที่จะอยู่ข้างๆพวกคุณเสมอเช่นกัน จอยอยากบอกคนรอบข้างของพวกเขาช่วยกันประสาน และช่วยพวกเขาหาทางออกในทางที่ถูกต้อง เพราะบางครั้งเขาต้องการทางออก และคนเข้าใจ แต่เพียงแค่พวกเขาไม่รู้จะพึ่งพาใครได้บ้างต่างหาก เราควรช่วยสอดส่องและแจ้งหน่วยงานต่างๆให้เข้ามาดูแล จอยอยากให้ทุกภาคส่วนช่วยกันดูแล และโซเชียลมีเดีย ก็เป็นส่วนสำคัญในยุคนี้ ที่ทุกคนใช้ช่วยดูแลซึ่งกันและกันมากขึ้น อย่างในระดม ที่คนยังไม่รู้ว่าเขาเป็นโรคสองบุคลิก คนไม่ยอมรับเลย แต่พอรู้ เขาก็เริ่มเข้าใจขึ้น ดังนั้นเราจะเห็นได้สังคมไม่ต้อนรับความรุนแรงเลย พอพวกเขารู้ว่าระดมเป็นโรคสองบุคลิก แล้วกลับมาเห็นใจ และเข้าใจตัวละครมากขึ้น จอยเห็นแฟนๆละครทุกคนช่วยกันออกความคิดเสนอทางแก้ไข ระหว่างดูละคร ซึ่งอันนี้เป็นตัวบอกได้ว่าสังคมเรามีความช่วยเหลือกันจริงๆ และอย่างที่จอยบอกแต่แรก ความอ่อนแอไม่ได้อยู่ที่เพศ แต่อยู่ที่ใครอ่อนแอกว่า และถูกคนที่แข็งแกร่งกว่ากระทำหรือไม่ ดังนั้นเราไม่ควรทำร้ายจิตใจผู้อื่น เพียงเพราะคนแค่แข็งแรงกว่า แต่ถ้าหากไม่สามารถให้คำตอบตัวเอง และไม่มั่นใจในการตัดสินใจได้ เราควรเลือกปรึกษาเฉพาะทางจากหน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ รวมถึงจิตแพทย์ เพื่อให้เราได้ปลดล็อคตัวเองออกมาได้ และควรเปิดโอกาสให้คนอื่นช่วยเหลือเราบ้าง ไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะบางสภาวะจิตใจของเราบางครั้งขุ่นมัว เราลองเปิดใจคนที่เราคุยด้วยแล้วสบายใจ เราอาจดีขึ้น และมีมุมมองใหม่ๆเสริมเราได้อีกทาง

ฝากพลังถึงแฟนละคร?

ฝากขอบคุณแฟนๆละคร บ่วงใบบุญ ทุกคนที่ติดตามชมตลอด และมีส่วนร่วมแสดงความเห็นกับละครเรื่องนี้ ทั้งอินกับตัวละคร และชื่นชอบในฝีมือนักแสดงทุกคน จอยอยากบอกว่าทีมงาน และนักแสดงทุกคนรู้สึกดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ละครบ่วงใบบุญ เกี่ยวกับเรื่องธรรมะที่แผ่ออกไปเป็นแง่คิด และสุดท้ายขอขอบคุณที่ต้อนรับการกลับมาของจอย ขอบคุณมากๆเลยค่ะ